ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯธอส. ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มลุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้
วันที่ : 9 เมษายน 2562
ในไตรมาส 1/2562 เพิ่มเป็น 50.4 จุด พร้อมคาดอีก 6 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง
ในไตรมาส 1/2562 เพิ่มเป็น 50.4 จุด พร้อมคาดอีก 6 เดือนข้างหน้า จะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจมีโอกาสขยายตัวภายหลังการเลือกตั้ง
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยในฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ในไตรมาส 1/2562 มีค่าเท่ากับ 50.9 จุด ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 50.4 จุด
โดยเมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.2 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 55.7 จุด ซึ่งความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดลงในทุกปัจจัย แต่ยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุดในเกือบทุกด้าน ยกเว้นด้านต้นทุนการประกอบการ
ทั้งนี้ ระดับความเชื่อมั่นที่ลดลงในไตรมาส 1/2562 อาจเป็นผลมาจากที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดจากมาตรการการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมา เพื่อดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน และอุปสงค์ในตลาดมีจำนวนลดลงจากปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อการระบายอุปทานเหลือขายออกไป ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการอาจมีการปรับตัวในการทบทวนแผนการเปิดโครงการใหม่ และการขยายลงทุนที่ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.7 จุด แม้จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 42.3 จุด แต่ยังคงมีค่าต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจในภาวะปัจจุบันดีขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ โดยเป็นผลจากปัจจัยยอดขาย และผลประกอบการ (กำไร) ที่ลดลงมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) จะมีค่าเท่ากับ 58.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 60.5 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อทิศทางของธุรกิจ โดยคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะมีโอกาสขยายตัวดีขึ้นหลังการจัดตั้งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประกอบการ จะพบว่ากลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 59.9 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 65.4 จุด โดยมีสาเหตุจากปัจจัยผลประกอบการ (กำไร) และยอดขายในอนาคตจะลดลง ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนและจะกระทบต่อการจ้างงานลดลง
ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 56.1 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 53.2 จุด เนื่องจากส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า การประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะดีขึ้นกว่าไตรมาสปัจจุบันทุกด้าน
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยในฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ในไตรมาส 1/2562 มีค่าเท่ากับ 50.9 จุด ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 50.4 จุด
โดยเมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.2 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 55.7 จุด ซึ่งความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดลงในทุกปัจจัย แต่ยังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุดในเกือบทุกด้าน ยกเว้นด้านต้นทุนการประกอบการ
ทั้งนี้ ระดับความเชื่อมั่นที่ลดลงในไตรมาส 1/2562 อาจเป็นผลมาจากที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดจากมาตรการการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมา เพื่อดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน และอุปสงค์ในตลาดมีจำนวนลดลงจากปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อการระบายอุปทานเหลือขายออกไป ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการอาจมีการปรับตัวในการทบทวนแผนการเปิดโครงการใหม่ และการขยายลงทุนที่ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.7 จุด แม้จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 42.3 จุด แต่ยังคงมีค่าต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจในภาวะปัจจุบันดีขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ โดยเป็นผลจากปัจจัยยอดขาย และผลประกอบการ (กำไร) ที่ลดลงมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) จะมีค่าเท่ากับ 58.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 60.5 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อทิศทางของธุรกิจ โดยคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะมีโอกาสขยายตัวดีขึ้นหลังการจัดตั้งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเป็นรายกลุ่มผู้ประกอบการ จะพบว่ากลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 59.9 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 65.4 จุด โดยมีสาเหตุจากปัจจัยผลประกอบการ (กำไร) และยอดขายในอนาคตจะลดลง ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนและจะกระทบต่อการจ้างงานลดลง
ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 56.1 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ระดับ 53.2 จุด เนื่องจากส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า การประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะดีขึ้นกว่าไตรมาสปัจจุบันทุกด้าน
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ