คุมอสังหาฯไม่กระทบคนอยากมีบ้าน
Loading

คุมอสังหาฯไม่กระทบคนอยากมีบ้าน

วันที่ : 1 มีนาคม 2562
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "จับสัญญาณเสี่ยงออกกฎคุมสินเชื่ออสังหาฯ" ว่า การออกมาตรการการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 เม.ย.นี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ด้าน
         นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "จับสัญญาณเสี่ยงออกกฎคุมสินเชื่ออสังหาฯ" ว่า การออกมาตรการการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 เม.ย.นี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ด้าน คือ เสริมสร้างวัฒนธรรมการปล่อยสินเชื่อที่ดี ช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อมีวินัยทางการเงินที่มากขึ้น นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังช่วยการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเก็งกำไร หรือช่วยลดดีมานด์เทียม ซึ่งจะช่วยลดการปั่นราคา ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแท้จริง สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ในราคาที่เหมาะสม และสุดท้ายยังช่วยยกระดับคุณภาพสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ป้องกันการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อที่รุนแรงเกินไป ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยระยะยาว เพราะจะช่วยลดความเปราะบางในระบบเศรษฐกิจลงได้

          สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และเป็นกลุ่มใหญ่มีสัดส่วนของผู้ขอสินเชื่อ 89% ของจำนวนสินเชื่อทั้งหมด ส่วนกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่เริ่มมีพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น มีสัญญาการกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่า 2 สัญญาขึ้นไป เริ่มมีสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ธปท.จึงเข้าไปดูแลส่วนกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่ซื้อบ้านในราคาสูงกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยกลุ่มนี้ถือเป็นผู้บริโภคระดับบน มีฐานะการเงินที่ดี ธปท.จึงขอให้ต้องวางเงินดาวน์ 30% หรือมี LTV ที่ 70%

          "การปรับเกณฑ์ขอ งธปท.ในครั้งนี้ถือเป็นการดูแลความเสี่ยงในเฉพาะจุด ไม่กระทบกับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะประชาชนที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และยังช่วยให้ประชาชนกลุ่มนี้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมมากขึ้น เนื่องจากมาตรการเหล่านี้จะช่วยลดดีมานด์เทียมลง ทำให้ราคาซื้อขายสะท้อนความเป็นจริงที่มากขึ้น"
 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ