'ซี.พี.'อัดโปรฯกระตุ้นหนักหั่นราคาคอนโดฯ3แสน
          ตลาดอสังหาฯ "มหาสารคาม" อืด ดีมานด์ไม่กระเตื้อง ชี้บ้าน-คอนโดฯไม่เกิน 2 ล้านบาท เจาะลูกค้าสถาบันการศึกษายังพอไปได้ บิ๊กแบรนด์จากส่วนกลาง "ซี.พี.แลนด์" ทิ้งทุ่นช่วงโค้งสุดท้ายอัดโปรโมชั่นแรงลดราคาลง 3 แสนบาท
          นายณรงค์ เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันของจังหวัดมหาสารคามค่อนข้างนิ่ง หลังสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น หลังมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม ปี 2561 การซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมยังพอไปได้ แม้จะไม่หวือหวา เนื่องจาก จ.มหาสารคามเป็นเมืองการศึกษา มีดีมานด์และกำลังซื้อจากบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าราชการครูนิยมซื้อบ้านจัดสรร หรือคอนโดฯให้บุตรหลานอยู่อาศัยระหว่างเรียนหนังสือ แต่ปี 2562 หากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ ของภาครัฐตลาดอสังหาฯ ในมหาสารคามคงไม่กระเตื้องขึ้น
          นางสาวลักขณา เมธานิธิกุล หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมธานิธิกรุ๊ป ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเมธา ถีนานนท์ จ.มหาสารคามกล่าวว่า กำลังซื้อส่วนใหญ่ของมหาสารคามจะมาจากบุคลากรทางการศึกษาที่มีรายได้แน่นอน ส่วนใหญ่ต้องการซื้อบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาทโดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ บริษัทจึงมียอดขายเข้ามาต่อเนื่องแม้อัตราการดูดซับค่อนข้างช้า
          ขณะที่ธุรกิจหอพัก-ห้องเช่าของห้างหุ้นส่วนจำกัด เมธานิธิกรุ๊ปยังขยายตัว ปีนี้มีการลงทุนก่อสร้างหอพักถึง 3 แห่งประมาณ 200 ห้อง แต่ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแม้จะมีหอพักขนาดเล็กผุดขึ้นจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้าที่เป็นนักศึกษารวมทั้งบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ต้องการพักอาศัยในหอพักที่ได้มาตรฐานและมีสาธารณูปโภคพร้อม
          อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการลงทุนในพื้นที่มหาสารคามปีนี้ยังมีน้อย แม้ผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรรบางรายจะขยายเฟส 2-3 แต่ไม่ได้คาดหวังด้านยอดขายมากนัก แค่ลงทุนเพิ่มตามแผนที่วางไว้เท่านั้น ต้องยอมรับว่าปีนี้ยอดขายค่อนข้างอืดจึงเร่งจัดโปรโมชั่น กระตุ้นการตัดสินใจ
          ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2561 ผู้ประกอบการอสังหาฯใน จ.มหาสารคามต่างโหมทำการตลาดโปรโมชั่นกิจกรรมส่งเสริมการขายกันคึกคัก อาทิ คอนโดฯพร้อมอยู่ ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่เข้าไปทำตลาดใน จ.มหาสารคาม ลดราคาขายเริ่มต้นจาก 1.27 ล้านบาท เหลือ 9.9 แสนบาท ฟรีค่าโอน เป็นต้น
          ทำเลทองของจังหวัดมหาสารคาม คือ เขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เขตเทศบาลตำบลท่าขอนยาง และเขตเทศบาลตำบลขามเรียง อ.กันทรวิชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม มียักษ์ใหญ่อสังหาฯจากส่วนกลาง อาทิ ซี.พี.แลนด์ ลงทุนสร้างกัลปพฤกษ์คอนโด ที่ถนนทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ขามเรียง) กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ลงทุนโครงการหมู่บ้านสีวลี ริมถนนทางไป ต.ท่าสองคอน อ.เมือง นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มทุนจากส่วนกลางเข้ามาซื้อหอพักศูนย์หอพักตักสิลา 8 หลัง ปรับหอพักเป็นคอนโดฯ ในชื่อ "ร็อคเซีย คอนโด" เป็นต้น
          นอกจากนี้ มีข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี และมหาสารคาม) พบว่า จ.มหาสารคามมีหน่วยในผังโครงการที่อยู่อาศัย 2,300 หน่วย 24 โครงการ มูลค่า 6,351 ล้านบาท ซึ่งกว่า 61.8% กระจุกตัวในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม ระดับราคา 5-7.5 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท โดยแยกเป็นบ้านจัดสรร 18 โครงการ 1,915 หน่วย มูลค่า 5,929 ล้านบาท ซึ่งกว่า 48.4% เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ และอาคารชุด 6 โครงการ 385 หน่วย มูลค่า 422 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งปีแรก 2561 ทั้งหมด 3 โครงการ 241 หน่วย
          ทั้งนี้ พบว่ามีหน่วยขายได้สะสม 1,350 หน่วย มูลค่า 3,798 ล้านบาท และหน่วยเหลือขาย 950 หน่วย มูลค่า 2,553 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรร 783 หน่วย มูลค่า 2,324 ล้านบาท และเป็นอาคารชุด 167 หน่วย มูลค่า 229 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งส่วนที่สร้างเสร็จแล้ว และยังสร้างไม่เสร็จในอัตราที่ ใกล้เคียงกัน
          ขณะเดียวกัน เมื่อเจาะลึกลงไปพบว่าหากเป็นอาคารชุด หน่วยที่ขายได้ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ ราคา 1-1.5 ล้านบาท และ 1.5-2 ล้านบาท ด้านอาคารพาณิชย์ระดับราคาที่ขายได้ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท ขณะที่บ้านเดี่ยวส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-5 ล้านบาท นอกจากนี้ พบว่าอัตราการดูดซับต่อเดือนในปี 2561 นั้น ภาพรวมลดลงกว่า 2.5% ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และที่ดินเปล่า ยกเว้นอาคารชุดที่มีอัตราการดูดซับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5.9% ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอัตราดูดซับ H2/2562 เปรียบเทียบกับ H1/2562 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง 0.1-1% ในทุกจังหวัดและประเภท