เปิดฉากแข่งขึ้นดอกเบี้ย
Loading

เปิดฉากแข่งขึ้นดอกเบี้ย

วันที่ : 22 ธันวาคม 2561
คณะกรรมการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินของธนาคารออมสิน เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน ในอัตรา 0.25% ต่อปี สำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป
        นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินของธนาคารออมสิน เห็นชอบให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน ในอัตรา 0.25% ต่อปี สำหรับบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนลูกค้าผู้ฝากเงินของธนาคาร และสอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 19  ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา ที่มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี ขณะเดียวกันธนาคารยืนยันว่าจะไม่มีการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงนี้ จนกว่าภาพรวมของตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบธนาคาร

          นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าธนาคารจะมีการประชุมพิจารณา เพื่อทบทวนอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร ภายหลังที่ประชุม กนง. มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมา 0.25% โดยเบื้องต้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานยังจะคงอยู่แบบเดิม ยกเว้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำบางประเภทที่อาจปรับขึ้นได้ ซึ่งจะดูให้เหมาะสมกับดอกเบี้ยเงินฝากประเภทเดียวกันที่มีอยู่ในตลาด เพื่อต้องการรักษาฐานเงินฝากของธนาคารต่อไป ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ยังจะคงไว้ต่อเหมือนเดิม และไม่มีการปรับเงินงวด เพื่อไม่กระทบต่อการผ่อนชำระของประชาชน

          นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก แม้ออมสินซึ่งเป็นสถาบันการเงินรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยฝากประจำไป 0.25% แล้ว เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินงานที่ต่างกัน เนื่องจากกรุงไทย ถือเป็นธนาคารที่มีสถานะเป็นธนาคารพาณิชย์ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบนฐานเงินฝาก ถึง 0.47% เข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินขณะที่ออมสินจ่ายน้อยกว่า นอกจากนี้ยังต้องเสียภาษีจากรายได้ซึ่งออมสินไม่ต้องเสียเพราะสามารถส่งเงินรายได้เข้าแผ่นดินได้ นอกจากนี้หากเปรียบเทียบดอกเบี้ยอ้างอิงเงินกู้ของกรุงไทยยังคงต่ำที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์ด้วย

          "แม้ธนาคารอื่นจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว แต่เราไม่จำเป็นตาม เพราะปีหน้าเศรษฐกิจผันผวนมาก ประเทศ ใหญ่ ๆ จะมีการเลือกตั้ง ทำให้ภาคการเงิน การส่งออกยังมีความเสี่ยง เยอะ ดังนั้นธนาคารจึงไม่อยากเพิ่มปัจจัยเสี่ยงขึ้นดอกเบี้ยอีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีที่เพิ่งฟื้นตัว จึงจำเป็นต้องช่วยประคองให้ได้ ขณะเดียวกันธนาคารไม่กังวลเงินฝากจะไหลออกไป เพราะตอนนี้สภาพคล่องยังมีอยู่สูง ประกอบกับตลาดลูกค้าออมสินกับกรุงไทยก็ไม่เหมือนกัน"