BSMปักธงรายได้ปี60โต20% เล็งเปิดขายโครงสร้างอสังหา 500 ล้าน มี.ค.นี้
Loading

BSMปักธงรายได้ปี60โต20% เล็งเปิดขายโครงสร้างอสังหา 500 ล้าน มี.ค.นี้

วันที่ : 16 มกราคม 2560
BSMปักธงรายได้ปี60โต20% เล็งเปิดขายโครงสร้างอสังหา 500 ล้าน มี.ค.นี้

:เล็งเปิดขายโครงการอสังหาฯ 500 ล้านมี.ค.นี้

BSM ตั้งเป้ารายได้รวมปี 60 โต 20% จากปี 59 เน้นออกผนังกั้นห้องแบบใหม่ๆ มากขึ้น พร้อมเล็งเปิดขายโครงการที่พักอาศัยวัยเกษียณ “San sara หัวหินมูลค่า 500 ล้านบาทอย่างเป็นทางการปลายมี.ค.นี้ จ่อบุ๊ครายได้ 250 ล้านบาทในปี 60

นายสัญชัย  เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2560 คาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นบริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตประมาณ 20% จากปี 2559 ซึ่งจะมาจากการผลิตและจำหน่ายผนังกั้นห้อง กระจกอะลูมิเนียม ฝ้าเพดาน และในปี 2560 จะมีการรับรู้รายได้จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ในปี 2560 บริษัทจะเน้นออกผนังกั้นห้องแบบใหม่ๆ ซึ่งยังมีความต้องการและสามารถขยายตลาดดังกล่าวได้ ขณะเดียวกันยังมีกระจกอะลูมิเนียมและฝ้าเพดานจำหน่ายไปพร้อมกันด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวภายในประเทศประมาณ 80% และรายได้จากการจำหน่ายจากต่างประเทศประมาณ 20% ซึ่งหลักๆ จะมาจากประเทศพม่า กัมพูชา และอินเดีย

นอกจากนี้ ในปี 2560 บริษัทจะเปิดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวน 1 โครงการ เพื่อหนุนการเติบโตของรายได้รวม สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์จะพัฒนาภายใต้ชื่อโครงการ San sara (แซน-สรา) หัวหิน มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ วิลล่า และคอนโดมิเนียม เบื้องต้นคาดบ้านตัวอย่างจะสร้างเสร็จ และเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ปัจจุบันได้มีการออกบูธให้ข้อมูลลูกค้าที่สนใจแล้ว

สำหรับโครงการ San sara เบื้องต้นในปี 2560 เราประเมินจะทำยอดขายได้ประมาณ 50% ของมูลค่าโครงการ โดยตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งสัดส่วนรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 จะอยู่ที่ประมาณ 20% ของรายได้รวม และในปี 2562 สัดส่วนรายได้จากเพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวมนายสัญชัย กล่าว

นายสัญชัย กล่าวอีกว่า โครงการ San sara เป็นโครงการที่ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยในวัยเกษียณ โดยมีรูปแบบที่พักอาศัยประเภทวิลล่า จำนวน 13 หลัง ยูนิตละประมาณ 13-20 ล้านบาท และที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมสูง 3 ชั้น จำนวน 3 อาคาร จำนวนยูนิต 30 ยูนิต ราคาขายยูนิตละ 8-15 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ยังมีช่องว่าง มีจำนวนผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมากขึ้นบริษัทจึงเน้นพัฒนาโครงการเพื่อจับกลุ่มลูกค้าดังกล่าว โดยปัจจุบันมีชาวต่างชาติที่ชอบประเทศไทยและเข้ามาใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณมากขึ้น ซึ่งหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คนรู้จักมาก

ส่วนแนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 บริษัทมองว่ายังคงทรงตัวจากปีก่อน ซึ่งจะต้องติดตามเศรษฐกิจภายในประเทศโดยรวม และยังต้องติดตามเศรษฐกิจต่างประเทศที่จะส่งผลกระทบกับการส่งออกของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ