นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการคอนโดมิเนียมระดับคุณภาพสูง (ไฮเอนด์) โนเบิล เพลินจิต ย่านถนนเพลินจิต พื้นที่ 9 ไร่ ว่าเปิดขายเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนจนถึงปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% ซึ่งถึงจุดคุ้มทุนแล้ว โดยแผนธุรกิจปีนี้บริษัทจะยังเดินหน้ากลยุทธ์การพัฒนาโครงการไฮเอนด์ เน้นความหรูหราแต่เข้าถึงได้ "โครงการนี้เป็นอีกโครงการที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทเคยทำมา เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ ยูนิตที่เหลือไม่ได้รีบขาย เพราะเกินเบรกอีเวนต์พอยต์แล้ว" นายกิตติกล่าว

นายศิระ อุดล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการนี้มีมูลค่า 18,000 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 146,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวน 1,444 ยูนิต โดยราคาขายเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 3 แสนบาทต่อ ตร.ม. จากเริ่มต้นราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 แสนบาทต่อ ตร.ม. ส่วนใหญ่เป็นคนไทยซื้อ คิดเป็น 90% ที่เหลือเป็นต่างชาติ โดยจะทำตลาดกับต่างชาติเพิ่มขึ้นเพราะมีกลุ่มสนใจลงทุน ทั้งจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ ส่วนปีนี้จะขายโครงการหมดหรือไม่ต้องดูสภาพเศรษฐกิจว่าจะเอื้ออำนวยแค่ไหน แต่บริษัทคงไม่เดินกลยุทธ์การเล่นสงครามราคา

นายศิระกล่าวอีกว่า โครงการโนเบิล เพลินจิต ประกอบด้วย 4 อาคารหลัก คือ โนเบิล บิลด์ดิ้ง มี 4 ชั้น เปิดเป็นพื้นที่ค้าปลีก, อาคารคอนโดมิเนียม 3 อาคาร คือ อาคาร A ความสูง 14 ชั้น อาคาร B ความสูง 51 ชั้น และอาคาร C ความสูง 45 ชั้น รวมถึงมีพื้นที่จอดรถใต้ดิน 4 ชั้น และมีพื้นที่เชื่อมต่ออาคารต่างๆ ออกแบบเป็นพื้นที่สวนรวม 4 ไร่ เพื่อให้เป็นตามแนวคิดการออกแบบสร้างเมืองแนวสูงที่มีพื้นที่สีเขียว

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน