SENA ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% บอส "ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" วางแผนเปิดตัว 10 โครงการโกยเงิน มั่นใจผลงานสวย เผยตุนแบ็กล็อกเข้า มือไว้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมร่วมมือพันธมิตร "ฮันคิว เรียลตี้" เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ลงตลาด คาดเห็นความชัดเจนมีนาคมนี้ ฟากโบรกมอง อนาคตเด่น เชียร์ "ซื้อ"วางราคาพื้นฐาน 4.79 บาท

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้ปี 2560 เติบโต 20% จากปี 2559 โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่ 3,300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังมีโครงการที่พร้อมขาย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,700 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 1/2560 จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่เลื่อนเปิดจากช่วงไตรมาส 4/2559 โดยทั้งปี 2560 บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่รวม 10 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวสูงกว่า 80% และแนวราบ 20%

ส่วนการที่บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด (Hankyu Realty Co, Ltd) ในฐานะกลุ่ม บริษัท Hankyu Hanshin Holding Group เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน "เสนา ฮันคิว 1" โดย SENA ถือหุ้นในสัดส่วน 51% คิดเป็นเงินลงทุนจำนวน 38.25 ล้านบาท และฮันคิว เรียลตี้ ถือหุ้น 49% โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 1 ล้านบาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 74 ล้านบาท รวมเป็น 75 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2559

จับมือพันธมิตรลุยอสังหา

โดยหลังจากนี้ บริษัทจะมีการร่วมกันพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยจะนำเอา Know How ของพันธมิตรญี่ปุ่นเข้ามาพัฒนารูปแบบทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ซึ่งมองว่าพันธมิตรดังกล่าวมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการออกแบบ และการดีไซน์ จึงน่าจะส่งผลต่อความน่าสนใจของอสังหาริมทรัพย์ของ SENA มากขึ้น โดยคาดว่าน่าจะเห็นรูปแบบที่จะมีการดำเนินการร่วมกันได้ชัดเจนในช่วงเดือนมีนาคม 2560

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 1/2560 ว่า อาจจะยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากนัก โดยต้องรอดู มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐว่าจะมีออกมาในปีนี้หรือไม่ ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะเป็นตัวสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวได้ ทั้งนี้ประเมินว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 จะเติบโตเล็กน้อย เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เลื่อนการเปิดโครงการออกไป จะกลับมาเปิดโครงการในช่วงต้นปี และยังมีแนวโน้มว่าภาระหนี้สินภาคครัวเรือนจะลดลง หลังปี 2560 จะเป็นปีที่ประชาชนบางส่วนจะหมดภาระเรื่องรถคันแรก

"แนวโน้มไตรมาส 1/2560 อาจจะยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว เนื่องจากเพิ่งอยู่ในช่วงเดือนมกราคม แต่อย่างไรก็ตามคาดว่ากำลังซื้อจะกลับมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยคาดหวังว่าภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาเหมือนปีก่อน ซึ่งจะช่วยหนุนกำลังซื้อให้กลับมาอย่างแท้จริง" ผศ.ดร.เกษรากล่าว

แววอนาคตมาแรง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ "ซื้อ" SENA โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 4.79 บาท จากประเด็นที่  SENA ประกาศจับมือ "ฮันคิว เรียลตี้" พันธมิตรยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น และได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน "เสนา ฮันคิว 1" โดย SENA ถือหุ้นในสัดส่วน 51% คิดเป็นเงินลงทุนจำนวน 38.25 ล้านบาท และฮันคิว เรียลตี้ ถือหุ้น 49% โดยมีทุนจดทะเบียนแรกตั้ง 1 ล้านบาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 74 ล้านบาท เป็น 75 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนธันวาคม 2559 นั้น

ทั้งนี้ในมุมมองของฝ่ายวิจัย ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว แม้ยังไม่รายละเอียดมากนัก แต่ในกรณีผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วคือ AP และ ANAN จะได้รับประโยชน์ในเรื่องของการลดความเสี่ยงจากโครงการ ใช้เงินลงทุนน้อยลง และได้รับเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นด้วย ซึ่งที่ดินที่ญี่ปุ่นนั้นแพงมาก การสร้างอาคารสูงจึงต้องมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูง อย่างไรก็ตามต้องติดตามรายละเอียดถึงโครงการที่จะร่วมกันในอนาคตว่าเป็นอย่างไร

กูรูเชียร์ "ซื้อ" เป้าหมาย 4.79 บ.

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยจึงแนะนำ "ซื้อ" และประเมินราคาราคาพื้นฐานเป็น 4.79 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 2560 ที่ 6 เท่า และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปี 2560 ที่สูงเป็น 8.1% คาดว่าไตรมาส 4/2559 ก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี กำไรหลักเป็น 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 51% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อีกทั้งกำไรปีนี้และปีหน้ายังทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา มีอัตราการเติบโตกำไรที่ดีคือ 222% และ 11% เทียบปีก่อนหน้า ตามลำดับ นอกจากนี้ SENA มีจุดเด่นคือ เป็นผู้ประกอบการอสังหารายเดียว ที่นำเรื่องธุรกิจพลังงานทดแทนคือ แสงอาทิตย์ (Solar Power) มาใช้ประโยชน์ ทั้งการลงทุนและพ่วงไปกับการจำหน่ายที่อยู่อาศัย ซึ่งเพิ่มจุดขายให้กับลูกค้าที่มาซื้อบ้าน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น