สำรวจอสังหาฯ3เมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่ ฉายแววเด่นต่างชาติชื่นชอบ
Loading

สำรวจอสังหาฯ3เมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่ ฉายแววเด่นต่างชาติชื่นชอบ

วันที่ : 24 มกราคม 2560
สำรวจอสังหาฯ3เมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่ ฉายแววเด่นต่างชาติชื่นชอบ

การท่องเที่ยวนอกเหนือจากจะเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทำรายได้เข้าประเทศจำนวนมากทดแทนการส่งออกที่ถดถอย จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแล้ว "การท่องเที่ยว" ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยความคึกคักของตลาดท่องเที่ยวจะเป็นแรงดึงดูดให้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลของฝ่ายวิจัยบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระบุว่า การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวในบางพื้นที่มีทิศทางเติบโตสอดคล้องกัน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า 3 เมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ คือ เชียงใหม่ เชียงราย และเขาใหญ่ มีการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องกันไป โดยจากการสำรวจล่าสุดเมื่อปลายปี 2559 พบว่ามียอดขายได้สะสมโดยเฉลี่ยทั้ง 3 พื้นที่อยู่ที่ 79% ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวของภาคเหนือ อันได้แก่ เชียงใหม่ และเชียงราย มีอุปสงค์ที่ตอบรับได้ดีกว่าพื้นที่อื่น ขณะที่ข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2559 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนประมาณ 13%

ทั้งนี้ หากวิเคราะห์รายจังหวัด โดยเริ่มต้นจากเชียงใหม่ พบจำนวนโครงการอสังหาฯ 179 โครงการ มียอดขายแล้ว 82% จากอุปทานรวมจำนวน 27,709 ยูนิต อุปสงค์โดยรวมเพิ่มขึ้น 7% รูปแบบที่มีการตอบรับดี คือ บ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ขายดีในโซนตัวเมืองเชียงใหม่ และหากขยับไปรอบนอกก็ยังขายได้ เพราะมีดีมานด์จากชาวกรุงเทพฯ ที่ซื้อไว้เป็นบ้านพักตากอากาศเพราะมีบรรยากาศที่ดี ส่วนช่วงราคา 7-9.99 ล้านบาท พบอัตราดูดซับเฉลี่ย 5.7 ยูนิตต่อเดือน

จากการสำรวจยังพบอุปทานบ้านเดี่ยวระดับบน หรือในกลุ่มราคา 25p50 ล้านบาทต่อยูนิต มียอดตอบรับแล้ว 79% โครงการเหล่านี้ตั้งอยู่ในโซนรอบนอกเมืองเชียงใหม่ ใกล้เคียงกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่คนนิยมซื้อไว้เป็นที่พักตากอากาศ และสำหรับกลุ่มดีมานด์ระดับพรีเมียมที่เริ่มหันไปหาที่ดินที่ใหญ่ขึ้นเพื่อปลูกสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศ เพราะได้พื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ขึ้น มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ซึ่งพบว่าบางหลังมีมูลค่าบ้านมากกว่า 30 ล้านบาทโดยประมาณ อย่างพื้นที่แถวโซนแม่ริม และคาดว่ายังมีความต้องการของดีมานด์ระดับพรีเมียมนี้อยู่เช่นกัน

อยู่เช่นกัน ขณะที่ จ.เชียงราย ในรอบสำรวจนี้พบยอดขายได้แล้ว 76% ของอุปทานรวม 4,161 ยูนิต มีอัตราดูดซับโดยเฉลี่ยของทุกโครงการอยู่ที่ 2.6 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ อุปสงค์ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ที่ซื้อไว้อยู่อาศัย ตอบรับดีในอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิต เน้นทำเลในตัวเมืองเชียงรายทั้งแนวราบและแนวสูง ตลาดคอนโดมิเนียมตอบรับดี ในรูปแบบ 1 ห้องนอน ราคา 40,000p60,000 บาทต่อตารางเมตร อัตราการดูดซับอยู่ที่ 6.6 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ยังไปได้ในโซนเมือง อัตราการดูดซับอยู่ที่ 1.9 และ 8.2 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ตามลำดับ

ส่วนอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เขาใหญ่ พบอุปทานสะสมจำนวน 5,078 ยูนิต อุปสงค์ตอบรับแล้ว 72% ตลาดคอนโดมิเนียมยังคงเป็นตลาดหลักของพื้นที่นี้ พบอุปทานใหม่ในรอบสำรวจ 59 มียอดตอบรับเฉลี่ย 87% หรือ 11.7 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ โดยอุปสงค์ตอบรับดีในช่วงราคา 60,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร กลุ่มอุปสงค์เป็นคนนอกพื้นที่ที่ซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศหรือซื้อไว้เพื่อลงทุน

สำหรับแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2560 ในส่วนของเชียงใหม่คาดว่าอุปสงค์ยังมีแนวโน้มเติบโต จากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ รวมถึงยังมีแนวโน้มที่จะดึงดูดชาวต่างชาติให้มาจับจองอสังหาฯ

เพราะเชียงใหม่ถือเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากต่างชาติ โดยสื่อต่างชาติอย่าง The Huffington Post ของสหรัฐจัดอันดับให้เชียงใหม่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าลงทุนด้านอสังหาฯ มากที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ส่วนอุปทานใหม่คาดว่าจะพบการลงทุนจากผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงที่อาจมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 80% โดยเน้นในทำเลเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรือในโซนที่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างโซนแม่ริม

ด้านเชียงราย คาดว่ายังทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2559 ถึงแม้ว่าจะพบหลายโครงการทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงชะลอการก่อสร้างออกไปในช่วงปลายปี 2558-2559 แต่ยังมีอุปทานใหม่ จากผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่นเข้ามาเติมเต็มอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม โครงการอสังหาฯ ในพื้นที่นี้เน้นเสนอขายคนในพื้นที่เป็นหลักทำให้ตลาดยังเปลี่ยนแปลงได้ไม่มากนัก

อย่างไรก็ตาม อสังหาริมทรัพย์ในทำเลเขาใหญ่อาจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร เป็นผลกระทบจากการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินจากภาครัฐครั้งใหญ่ในปี 57-58 ส่งผลให้บางโครงการยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ บางส่วนยกเลิกโครงการ ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักที่ต้องการซื้อบ้านพักตากอากาศบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวไทย ซึ่งในปีนี้คาดว่าโครงการอสังหาฯ ทั้งแนวราบและแนวสูง ทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 20 โครงการ ทำให้แนวโน้มภาพรวมยังทรงตัวต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ