เอพีเดินหน้าร่วมทุน มิตซูบิชิ ผุดคอนโดแนวรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้าน ชี้อสังหาฯ ปีระการายใหญ่แข่งเดือด

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ซึ่งเป็นพันธมิตรกันมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีโครงการที่พัฒนาร่วมกัน 8 โครงการ รวมมูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2560 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่าไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท

สำหรับโครงการร่วมทุนที่จะเปิดตัวภายในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบด้วย โครงการ ไลฟ์ วัน ไวร์เลส บนถนนวิทยุ มูลค่า 6,400 ล้านบาท และโครงการ ไลฟ์ ลาดพร้าว ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว มูลค่า 7,600 ล้านบาท และยังมี 1 โครงการที่จะเปิดตัวในครึ่งปีหลัง โดยจะพัฒนาในนามบริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นมีทุนจดทะเบียน 6,100 ล้านบาท จากเดิมเป็นการร่วมทุนกันเป็นรายโครงการ ซึ่งจะทำให้มีความคล่องตัวขึ้น

"การร่วมทุนกับพันธมิตร เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องหลัก แต่เป็นการร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ซึ่งเป็นจุดแข็งของทั้งสองบริษัท เพื่อยกระดับให้อสังหาริมทรัพย์ไทย โดยในปีนี้จะดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง ทั้งเรื่องสเปซและเทคโนโลยี คุณภาพที่อยู่อาศัย และคุณภาพชีวิต" นายอนุพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คงจะไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว การแข่งขันยังคงรุนแรงโดยเป็นการแข่งขันของบริษัทใหญ่ ปีนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของผู้ประกอบการซึ่งจะได้เห็นบางบริษัทเติบโต บางบริษัทไม่เติบโต การพัฒนาโครงการจะต้องหาจุดขายของตัวเองให้ได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นสีสันการตลาด สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอนจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์

นายอนุพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่รวม 20 โครงการ มูลค่ารวม 3.5 หมื่น ล้านบาท เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 17 โครงการ และคอนโดมิเนียมที่ร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท อีก 3 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายรวม 2.6 หมื่นล้านบาท

ด้าน นายโชจิโร โคจิมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ดี โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า แม้ว่าจะมีหลายปัจจัยกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค แต่ในระยะยาวเศรษฐกิจไทยยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และนอกจากการร่วมทุนกับ เอพีแล้ว บริษัทยังสนใจลงทุนในธุรกิจค้าปลีก ออฟฟิศ และโลจิสติกส์ ซึ่งอาจจะได้เห็นในปีนี้หรือปีหน้า โดยอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ร่วมทุนอีกราย ขณะที่การลงทุนของบริษัทจะเน้นการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์