คลังเร่งแบงก์กระตุ้นประชาชนทำบัตรเดบิต เตรียมไว้รูดพร้อมเพย์ผ่านเครื่งอีดีซี เริ่มที่หน่วยราชการ

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือกและกำกับดูแลผู้ให้บริการวางอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องอีดีซี) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (อี-เพย์เมนต์) เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเรียกผู้ชนะการประมูลที่เสนอเงื่อนไขการติดตั้งเครื่องอีดีซีทั่วประเทศ 5.5 แสนเครื่อง เข้ามาลงนามในสัญญา โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องอีดีซีได้ตามระยะเวลากำหนดไว้

ขณะเดียวกันได้แจ้งไปยังธนาคารพาณิชย์ให้เร่งประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบัตรที่จะนำมาใช้ทำธุรกรรมผ่านเครื่องอีดีซี โดยเบื้องต้นยังคงเป็นบัตรเดบิตของแต่ละธนาคาร เพราะสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากแต่ละบัตรจะมีวงเงินผูกอยู่ในบัญชีอยู่แล้ว

นายสมชัย กล่าวว่า การดำเนินโครงการอี-เพย์เมนต์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินของประเทศ ลดต้นทุนการใช้เงินสดประเทศได้ประมาณปีละ 7.5 หมื่นล้านบาท และช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะข้อมูลต่างๆ เมื่อเกิดการชำระสินค้าจะถูกส่งเข้าไปที่กรมสรรพากรทันที

สำหรับผู้ชนะการประมูลติดตั้ง เครื่องอีดีซี จะต้องเริ่มดำเนินการ ติดตั้งให้ได้ภายใน 15 วัน โดยต้องติดตั้งเครื่องอีดีซีก่อน 25% ภายในเดือน เม.ย. จากนั้นติดตั้งเพิ่มเป็น 50% ภายในเดือน ก.ค. และติดตั้งเพิ่มเป็น 75% ภายในเดือน พ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะต้องติดให้ได้ครบ 100% ภายในเดือน มี.ค. 2561

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการติดตั้งเครื่องอีดีซีให้หน่วยราชการ จะต้องทำให้ได้ทั้งหมดในเดือน ก.ย. 2560 จำนวนประมาณ 1.8 หมื่นเครื่อง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนที่เข้ามาติดต่อกับส่วนราชการได้รับความสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางนี้ได้ทันที ไม่ต้องพกเงินสดติดตัวมา

"เมื่อประชาชนมาติดต่อหน่วยงานราชการแล้วต้องชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ สามารถชำระผ่านเครื่องอีดีซี ได้เลย ไม่ต้องชำระด้วยเงินสด อย่างไรก็ตามไม่ได้บังคับประชาชนว่าต้องใช้ระบบนี้ เป็นการขอความร่วมมือ" นายสมชัย กล่าว

ขณะที่การแจกรางวัลเพื่อจูงใจให้ประชาชนและร้านค้าใช้ระบบพร้อมเพย์ กระทรวงการคลังจะจัดให้มีการจับรางวัลเดือนละ 7 ล้านบาท หรือปีละ 84 ล้านบาท ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ดึงเงินมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อมาใช้ในโครงการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยประชาชนที่ชำระเงินผ่านพร้อมเพย์มีสิทธิที่จะได้รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท ถือเป็นการจูงใจให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการมากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์