เขตศก.พิเศษ-ท่องเที่ยว หนุนอสังหาฯตจว. ตลาดแนวราบเชียงใหม่บูมต่างชาติแห่ซื้อบ้านหลังที่สอง
Loading

เขตศก.พิเศษ-ท่องเที่ยว หนุนอสังหาฯตจว. ตลาดแนวราบเชียงใหม่บูมต่างชาติแห่ซื้อบ้านหลังที่สอง

วันที่ : 28 กุมภาพันธ์ 2560
เขตศก.พิเศษ-ท่องเที่ยว หนุนอสังหาฯตจว. ตลาดแนวราบเชียงใหม่บูมต่างชาติแห่ซื้อบ้านหลังที่สอง

หากมองถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 ผู้ประกอบการต่างมองคล้ายๆ กันว่าจะเติบโตประมาณ 5% เป็นการเติบโตแบบกึ่งทรงตัว จากความไม่เชื่อมั่นของ ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนกำลังซื้ออยู่บ้าง แต่ยังมีปัจจัยลบ คือ ยอดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา

"เป็นปีที่ต้องถักตาข่ายถี่ๆ จับลูกค้าให้ได้ เพราะความไม่มั่นใจ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการซื้อ แม้จะมีเงินจะต้องลุยเรื่องแคมเปญโปรโมชั่น ไม่ต้องหวังรัฐออกมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ในปีนี้คงไม่มี" นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุ

ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะในทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงรังสิต-ลำลูกกา ทำเลตลาดใหม่-ดอนเมือง ช่วงปลายถนนเพชรเกษมในโซนกรุงเทพตอนใต้ ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด โซนภาคตะวันออกจะเติบโตดีสุด จากปัจจัยการเติบโตในเขตเศรษฐกิจพิเศษและการท่องเที่ยว รองลงมาเป็นภาคใต้ เนื่องจากราคายางพาราปรับตัวดีขึ้น ส่วนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงทรงตัวถึงติดลบ เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคและราคาพืชผลทางเกษตรยังปรับขึ้นไม่มากนัก

นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจ.เชียงใหม่ซึ่งตลาดแนวราบได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่เที่ยวที่หลากหลาย จึงทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยสูงขึ้นทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย เป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง

ล่าสุดแสนสิริได้รับการตอบที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ลูกค้าชาวต่างชาติซื้อบ้านเดี่ยว 2 โครงการของแสนสิริที่เชียงใหม่รวมไปกว่า 15 หลัง กวาดยอดขายรวมไปถึง 100 ล้านบาท ดันยอดขายบ้านเดี่ยวของแสนสิริที่เชียงใหม่เพิ่มสูงขึ้น ล่าสุด "เศรษฐสิริ สันทราย" มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท มียอดขายแล้วสูงถึงกว่า 85% และ "บุราสิริ สันผีเสื้อ" มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ยอดขายทะลุ 50% ในเฟสแรก

"จ.เชียงใหม่ได้รับความสนใจมากในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเป็นเมืองตากอากาศของลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งนอกจากจะซื้อบ้านเดี่ยวเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ยังซื้อเพื่อปล่อยเช่าระยะยาวสำหรับพักผ่อนในช่วงปีใหม่และตรุษจีน ซึ่งให้ผลตอบแทนค่าเช่าสูงถึง 6-8% ด้วย สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติที่มาซื้อโครงการของแสนสิริส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยซื้อแบบ Leasehold ซึ่งเป็นการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ได้กรรมสิทธิ์การอยู่อาศัยระยะเวลา 30 ปี"

นายเมธากล่าวต่อว่า เหตุผลสำคัญที่ชาวต่างชาติเลือกซื้อโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริที่เชียงใหม่นั้น เนื่องด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับมายาวนานกว่า 30 ปีทั้งในไทยและต่างประเทศว่าเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้มอบแค่ที่อยู่อาศัยคุณภาพแต่มอบไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิต และการนำเสนอโครงการที่ตอบสนองต่อรสนิยมและความต้องการของลูกค้าต่างชาติได้อย่างตรงจุด

สำหรับแนวโน้ม อสังหาฯ ในจ.เชียงใหม่ปีนี้ คาดว่าดีมานด์ยังเติบโต โดยจะมีลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ปัจจุบันนิยมซื้อบ้านเดี่ยว เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง เพราะได้พื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ และใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งนี้คาดว่าอนาคตอสังหาฯ เชียงใหม่จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่เริ่มต้นก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในปี 2568และโครงการพัฒนาสนามบินสันกำแพง ที่จะแล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งจะสนับสนุนให้อสังหาฯ เชียงใหม่คึกคักและมีราคาพุ่งสูงขึ้นอีกแน่นอน

ด้านนายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย ตามปัจจัยบวกจากโครงการลงทุนโครงข่ายคมนาคมของภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย

"ในปีนี้ยังคงเห็นโครงการใหม่ๆ เปิดตัวสู่ตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการระดับบน และที่น่าสนใจคือโครงการระดับ Super Luxury จะเป็นดีมานด์เพื่อการอยู่อาศัยจริง จากแนวโน้มความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใจกลางเมือง สอดคล้องกับข้อมูลราคาขายโดยเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ ที่มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย โดดเด่นกว่าราคาขายของโครงการพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง และพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ"

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจับตามองคือ การที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีการนำที่ดินที่มีอยู่แล้ว (Land Bank) ออกมาพัฒนาเร็วขึ้น ทั้งในโซนสุขุมวิท อโศก หรือทองหล่อ ส่วนหนึ่งคือการปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมที่มีการเติบโตสูงและยังมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและลงทุนในระยะยาว

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก