"เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง" เปิดแผนรุกตลาดแนวราบ เล็งเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 3,700 ล้านบาท พร้อมชูทำเลศักยภาพ-นวัตกรรม NCXT สร้างบ้านแห่งอนาคตตอบโจทก์ผู้อยู่อาศัยทุกวัย ทั้งนี้มั่นใจตลาดรวมอสังหาฯปีนี้โต 10%

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดถึงแผน การดำเนินธุรกิจใน 2560 ว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการแนวราบ ใน 4 ทำเลศักย ภาพ มูลค่ารวมประมาณ 3,700 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดตัวโครงการโครงได้ในช่วงปลายไตรมาส 1 และต้นไตรมาส 2 ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคาประมาณ 2 ล้านบาท ในทำเลลำลูกกาคลอง 6 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เปิดตัวก่อนขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านตัวอย่าง ส่วนอีกทำเลคือ ย่านพุทธมณฑลสาย 5 ส่วนโครงการที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาเนื่องจากบริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่หลายแปลงทั้งนี้จะดูความเหมาะสมและความต้องการของตลาด

"ในปีนี้ทางบริษัทมีเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มในทำเลศักย ภาพโซนเหนือ และโซนตะวันตก มีการพัฒนาโปรดักส์ในเซกเมนต์ที่เป็นเรียลดีมานต์ พร้อมเน้นการทำตลาดเชิงรุก รวมทั้งนำนวัตกรรม NCXT ซึ่งเป็นการผนวก Smart Eco และ Smart Care ในการพัฒนาโปรดักส์เพื่อให้เป็นบ้านนวัตกรรมแห่งอนาคต ด้วยการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานและสามารถตอบโจทก์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยทุกวัย ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารักษาการเติบโตของยอดขายในปีนี้ที่ 2,750 ล้านบาท และเป้ารายได้อยู่ที่ 1,700 ล้านบาทเติบโตขึ้น 10% จากปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท"

อย่างไรก็ดีบริษัทยังมีสินค้าในมือรอขายทั้งแนวราบและแนวสูงอยู่ใน 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินค้าในระดับราคาที่มากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มากกว่า 1,000 ล้านบาทตรงนี้ไม่รวมโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ และเป็นโครงการแนวสูงทั้งในพัทยาและเชียงใหม่รวมมูลค่า 600 ล้านบาทแบ่งเป็นคอนโดฯในพัทยา 500 ล้านบาท และ เชียงใหม่ 100 ล้านบาท ขณะที่ Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 350-400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัท มีการขยายงานเชิงรุกกว่า 53 โครงการ มูลค่ารวมมาก กว่า 36,000 ล้านบาท ส่วนยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ 30% นอกจากนี้บริษัทยังมองหาธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มพอร์ตรายได้ระยะยาวซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนอสังหาฯในรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์บริเวณถนนอรุณอมรินทร์ประมาณ 200 ห้องซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี

สำหรับภาพรวมอสังหาฯในปีนี้ มองว่ายังอยู่ในภาวะทรงตัวและยังสามารถพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาด โดยปีนี้ผู้ประกอบการอสังหาฯสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เห็นว่าเป็นโอกาสทางเลือกที่ดีของผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ยังทรงตัวระดับต่ำและมีการตอบรับมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านผนวกกับมีการลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานผลักดันให้เศรษฐกิจภาพรวมอสังหาฯได้รับผลดีขึ้นตามลำดับ และจากการที่มีโครงการรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเข้าสู่เมืองชั้นในที่เร่งดำเนินการเกิดการ กระตุ้นตลาดอสังหาฯในกรุงเทพฯและปริมณฑลให้เติบโตควบคู่กัน คาดว่าภาพรวมตลาดปีนี้จะเติบโตประมาณ 10%

ทั้งนี้บริษัทก็ได้รับอานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีเขียว ในเขตโซนเหนือ, สายสีน้ำเงินโซนตะวันตก ทั้งนี้ยังเห็นว่าการเติบโตอสังหาฯส่วนใหญ่เป็นตลาดบ้านกลุ่มแนวราบ สินค้าบ้านเดี่ยวระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้อง การของตลาดผู้ซื้อบ้าน

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้