ออริจิ้นมั่นใจทำเลบางนา-สำโรง New Lifestyle CBD ในอีก3-5ปีUVซื้อที่ดินใกล้เมืองผุดโปรเจกต์ใหม่
"ออริจิ้น" มั่นใจศักยภาพทำเลบางนา -สำโรงอีก 3-5 ปีขึ้นแท่น "New Lifestyle CBD" เตรียมเปิดพรีเซลโครงการที่ 20 นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 มูลค่า 2,350 ล้านบาท 25 มี.ค.นี้ ณ ไบเทค บางนา ด้านธุรกิจอสังหาฯในกลุ่มเจ้าสัวเจริญ "UV" เดินหน้าลงทุนเปิด 25 โครงการ กว่า 26,000 ล้านบาท พร้อมขนคอนโดฯร่วมงานมหกรรมขายบ้านฯ หวังระบายสต๊อก
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพและน่าสนใจมากที่สุด เมื่อเทียบกับทำเลอื่น เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งตรงเข้าสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง(ซีบีดี) ได้ภายใน 20-30 นาที ส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ ก่อสร้างแล้วเสร็จเตรียมเปิดให้บริการใน วันที่ 1 เมษายนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมโซนนี้เติบโตมากกว่า 30% ในปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาศูนย์การ ค้าขนาดใหญ่ บางกอก มอลล์ พื้นที่กว่า 6.5 แสนตารางเมตร การพัฒนาเฟส 2 ของ ไบเทคบางนาและอาคารสำนักงานภิรัชทาวน์เวอร์ แอท ไบเทค พื้นที่ 12,000 ตร.ม. Sky Walk เชื่อมสถานีอุดมสุข-บางนา โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง รวมถึงศูนย์การค้าที่อยู่ในย่านนี้อีกหลายแห่ง
อีกทั้งในอนาคตยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง โดยสำโรง จะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญ เพราะมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมถึงรถไฟรางคู่ บางนา-สุวรรณภูมิ ทำเลนี้จะเชื่อมต่อทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน และการเดินทาง ซึ่งจะทำให้ย่านนี้คึกคักและกลายเป็น New Lifestyle CBD ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
สำหรับซัปพลายคอนโดมิเนียมในปี 59 ที่เปิดขายอยู่ในโซนลาซาล-แบริ่ง-สำโรง มีจำนวน 6,827 ยูนิต ปัจจุบันขายไปได้แล้ว 4,506 ยูนิต ยูนิตคงเหลือสิ้นปี 59 เพียง 2,321 ยูนิต อัตราการขายสูงเฉลี่ย 66% ขณะที่ทำเลอื่นๆ ส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 30% สะท้อนว่าทำเลนี้มีความต้องการของ ผู้บริโภคสูง
ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดขายนอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 ประกอบด้วยอาคาร 8 ชั้น 6 อาคาร 1,113 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 25.50-43.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท/ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาท/ตร.ม. รวมมูลค่าโครงการ 2,350 ล้านบาท เริ่มเปิดพรีเซล 3 อาคารจาก 6 อาคารใน วันที่ 25 มี.ค. 2560 ณ ไบเทค บางนา ขณะที่อีก 3 อาคารที่ไม่ได้เปิดพรีเซลนั้น อาคารหนึ่งมีตัวแทนขายจากต่างประเทศมาเหมาไปขายที่ฮ่องกงและไต้หวันแล้ว ขณะที่อีก 1 อาคารอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนขายจากทางญี่ปุ่น เริ่มก่อสร้างโครงการ มิ.ย. 2560 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 1/2562
"UV"ดันลงทุน 25 โครงการกว่า 2.6 หมื่นล.
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในปี 2560 ว่า วางเป้ารายได้รวมให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% จากปี 59 โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75-80% ของรายได้รวม แบ่งเป็นโครงการแนวราบของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) 55-60% และจากโครงการแนวสูงของบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด 20-25% สำหรับรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า 5-10% ในส่วนธุรกิจสังกะสีออกไซด์ประมาณ 6-10% และธุรกิจอื่นๆ ประมาณ 1-5%
ในส่วนของแผนพัฒนาโครงการจะเปิดทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่ารวม 26,800 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งงบประมาณใน การซื้อที่ดินในปีนี้ที่ 2,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น อย่างมากเนื่องจากราคาที่ดินในเมืองค่อนข้าง สูง ขณะที่ในปีที่ผ่านมา บริษัทใช้งบซื้อที่ดิน 750 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายจากโครงการคอนโด มิเนียมในปีนี้ที่ 4,500 ล้านบาท
"โครงการแนวสูงที่จะเปิดไตรมาส 3 มี 2 แปลง คือ เส้นรถไฟฟ้าบีทีเอสสายพหลโยธินติดสถานีบางบัว เนื้อที่ 3 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท จำนวน 390 ยูนิต โครงการเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (เส้นจรัญสนิทวงศ์) บริเวณบางพลัด เนื้อที่ 4 ไร่ 570 ยูนิต มูลค่า 1,750 ล้านบาท คาดราคาขายน่าจะแสนบาทต้นๆ"
สำหรับในปี 2560 นี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเติบโต 5-10% เมื่อเทียบกับรายได้ 4,500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และรายได้จากโครงการแนวราบ 10-15% จากปี 59 ที่ทำได้ 9,800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมขายจำนวน 1,500 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 4,500 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน จำนวน 3,276 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายในปี 2560 นี้ทั้งหมด
ทั้งนี้ ทางบริษัท ได้เตรียมนำโครงการจำนวน 7 โครงการ เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 36 ที่จะขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 มี.ค. โดยร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จัดแคมเปญ "ดีต่อใจ" ที่จะสนับสนุนลูกค้าในการผ่อนซื้อที่อยู่อาศัยในอัตราคงที่ 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้า โดยได้ตั้งเป้าการขายในงาน 400 ล้านบาท
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา