รายงานวิจัยล่าสุดของฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พบว่าตลาดคอนโดมิเนียมเมืองพัทยายังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ปีที่แล้วผู้ประกอบการหลายรายชะลอการเปิดขายหรือลดจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ เพราะตลาดชะลอตัวและมีคอนโดมิเนียมจำนวนมากเหลือขายอยู่ในตลาด

สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า "มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เพียง 1,800 ยูนิตเท่านั้นในครึ่งหลังปี พ.ศ. 2559 และรวมทั้งปีมีเพียง 2,100 ยูนิต เท่านั้นต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา"

ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่ชะลอตัวและปัจจัยลบหลายอย่างที่มี ผลกระทบโดยตรงต่อผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะการลดลงของค่าเงินรูเบิลรัสเซียในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มผู้ซื้อชาวรัสเซีย แม้ว่าปีที่แล้วจะมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนอีกครั้ง หลังจากที่ลดลงเหลือประมาณ 884,136 คน ในปี พ.ศ. 2558 แต่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจซื้อคอนโด มิเนียมเท่าที่ควร

นอกจากนี้จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากกว่า 15,000 ยูนิตต่อปีและมีจำนวนคอนโดมิเนียมเหลือขายอีกเป็นจำนวนมากในตลาด ประกอบ กับปัจจัยลบหลายอย่างมีผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมเมืองพัทยา

อัตราการขายเฉลี่ยในตลาดคอนโด มิเนียมเมืองพัทยาอยู่ที่ประมาณ 83% ณ สิ้นปี พ.ศ. 2559 คอนโดมิเนียมประมาณ 10,000 ยูนิตยังคงเหลือขายอยู่ในตลาด คอนโดมิเนียมที่ขายได้ส่วนใหญ่ในปี พ.ศ.2559 เป็นคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เพราะผู้ซื้อต้องการรับสิทธิประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จากมาตรการของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปี พ.ศ.2559 และเมื่อยอดขายไม่มากทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมบางโครงการมีการก่อสร้างล่าช้าและเลื่อนกำหนดการแล้วเสร็จโครงการออกไป

สำหรับภาพรวมในปี พ.ศ. 2560 กำลังซื้อยังคงไม่ได้เพิ่มขึ้นแบบชัดเจนและผู้ประกอบการยังให้ความสำคัญในการขายยูนิตที่สร้างเสร็จแล้วมากกว่าการเปิดขายโครงการใหม่ แม้ว่าจะมีกลุ่มผู้ซื้อชาวจีน และญี่ปุ่นจำนวนมากสนใจซื้อคอนโดมิเนียม ในตลาดเมืองพัทยา แต่กลุ่มผู้ซื้อเหล่านี้ยัง ไม่สามารถทดแทนกลุ่มผู้ซื้อชาวรัสเซียซึ่ง มีจำนวนมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จะไม่แตกต่างจากปี พ.ศ. 2559 มากนัก

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์