บิ๊กอสังหาฯฮึดสู้ ลุ้นยอดขายไตรมาสแรกเข้าเป้า
บิ๊กอสังหาฯฮึดสู้ ลุ้นยอดขายไตรมาสแรกเข้าเป้า
ผลการดำเนินงานของบริษัทพัฒนาที่ดินในปี 2559 ซึ่งถือว่าเป็นอีก 1 ปีที่ยากลำบากในการดำเนินการไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าจะมีมาตรการรัฐมาหนุนในช่วง 4 เดือนแรก แต่ด้วยเหตุการณ์เศร้าสลดของคนไทยทั้งประเทศจากการเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้ทุกอย่างในช่วง 3 เดือนสุดท้ายเกือบจะหยุดสนิท
เปิดผลสอบผลประกอบการปี 2559
การดำเนินการของบริษัทพัฒนาที่ดินในปี 2559 จึงต้องบอกว่าเอาตัวรอดมาได้ก็ถือว่า ดีเยี่ยมแล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่จะสอบตกไม่ว่า จะเป็นยอดรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือต่ำกว่ารายได้ในปี 2558 หากไล่เรียงดูมีเพียงไม่กี่บริษัทที่มีรายได้สูงกว่าปี 2558 แต่ก็คาบเส้นมาได้แบบเฉียดฉิว
ถ้านับเฉพาะตัวเลขรายได้ของบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ที่เพิ่มจากปี 2558 มีบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ศุภาลัย ยูนิเวนเจอร์ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ส่วนในรายของเอพี (ไทยแลนด์) ซึ่งได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า หากรวมรายได้จากโครงการร่วมทุนอีกกว่า 2,000 ล้านบาท ก็จะทำให้เอพีพลิกกลับมาเติบโตแบบเฉียดฉิว ขณะที่บริษัท เอสซี แอสเสท มีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2558
แต่สำหรับบริษัทใหญ่ๆ อย่างบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท แสนสิริ ควอลิตี้ เฮ้าส์ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ ล้วนมียอดขายที่ลดลงจากปี 2558 กันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าบริษัทมียอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่สภาพคล่องก็ยังแข็งแรงและไม่มีปัญหาต่อการดำเนินธุรกิจ แต่ถ้าภาวะเศรษฐกิจยัง ไม่สามารถฟื้นตัวจนทำให้การบริโภคฟื้นตัวกลับมาอย่างชัดเจน ทำให้รายได้ยังชะลอตัวก็อาจจะมีผลกระทบต่อสภาพคล่องได้ ดังนั้น ในช่วงเวลาที่ยังมีความผันผวนสูงเช่นนี้ จึงต้อง ให้ความสำคัญกับเรื่องของสภาพคล่องมากกว่าการเติบโตรายได้
ไตรมาสแรกลุ้นยอดขายกระเตื้อง
สำหรับในปี 2560 กำลังจะใกล้จบไตรมาสแรก สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นกว่าปีที่แล้วแน่นอนเนื่องจากกำลังซื้อส่วนหนึ่งที่ชะลอการตัดสินใจ ซื้อมาตั้งแต่ปลายปี 2559 ได้กลับคืนสู่ตลาดอีกครั้ง แต่ก็ไม่ใช่งานที่งานในการทำตลาดในช่วงนี้
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า ภาพรวมของตลาด อสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรกของปีเริ่มฟื้นตัว ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเดือน มี.ค.ของกลุ่มลูกค้าประเภทเรียลดีมานด์จากเมื่อเดือน ม.ค.ยอดขายของบริษัทยังต่ำกว่า 50% และในเดือน ก.พ.เริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่คอนโดมิเนียมระดับกลางเริ่มปรับตัวดีขึ้น พิจารณาได้จากโครงการเดอะทรี สุขุมวิท 71 ระดับราคาขาย 2-3.5 ล้านบาท ที่เปิดใกล้สามารถทำยอดขายได้แล้ว 50%
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าไตรมาส 2 ตลาดยังไม่ฟื้นตัวมากนักเนื่องจากตรงกับช่วง วันหยุดยาวในเดือน เม.ย. และปัญหาหนี้ครัวเรือน ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในการทำตลาด
วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรก ที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวมยังคงทรงตัวพอขายได้ แต่ไม่หวือหวามาก การเปิดตัวใหม่ยังคงน้อยอยู่เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและบรรยากาศการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่ค่อยๆ ฟื้นกลับ
สำหรับทิศทางตลาดในไตรมาส 2 นั้น เชื่อว่าตลาดคอนโดระดับล่างยังคงเหนื่อยในการผลักดันสต๊อกเหลือขาย ส่วนตลาดคอนโดระดับกลางถึงไฮเอนด์ไม่น่ากังวลมาก เพราะดีมานด์ยังคงมีอยู่ ซึ่งคิดว่าไตรมาส 2 หลังสงกรานต์ตลาดจะเริ่มกลับเข้าสู่การแข่งขันจะเห็นภาพการเปิดตัวคอนโดใหม่ๆ มากขึ้น โดยคีย์สำคัญก็ยังคงเป็นเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการ ที่ติดแนวรถไฟฟ้า โดยในไตรมาส 2 เอพีเตรียมเปิดตัว 2 คอนโดใหญ่แห่งปี ได้แก่ Life วัน ไวร์เลส และ Life ลาดพร้าว มูลค่ารวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
เจนต์ชัย ลิ้มวัฒนะกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาฯ โดยรวมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีโครงการทยอยออกมาเรื่อยๆ แต่ยอดขาย ไม่ได้ดีทุกโครงการ ขึ้นอยู่กับทำเลและโปรดักต์ โดยมองว่า ถ้าโปรดักต์ดี ทำเลดี ราคาที่เหมาะสม กับพื้นที่เชื่อว่ายังขายได้ เพราะตลาดมีกำลังซื้อแม้ว่าจะขายได้ช้าลง เมื่อเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจบูม
หากดูจากผลประกอบการในปีที่ผ่านมาที่หลายบริษัทพลาดท่าไปในปีที่แล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคในปีนี้จะยังไม่เปรี้ยงแต่เชื่อแน่ว่าผู้ประกอบการจะยังต้อง แข่งขันแย่งชิงตลาดกันมากยิ่งขึ้น เพราะคง ไม่มีใครที่จะอยากเจ็บซ้ำสองเป็นแน่
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์