พลัสฯ เผยผู้ประกอบการแห่ลงทุน ช่วง 9 เดือน เพิ่ม 32% ล่าสุดทายาทเกลือปรุงทิพย์ขยับลงทุนอสังหาฯ

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริษัทบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สัญญาณการฟื้นตัวของตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2559 มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แม้ว่าจะยังเป็นช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่ผู้ประกอบการเริ่มปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยเน้นตลาดระดับกลางและบนมากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการได้ขยายตลาดไปต่างประเทศเพื่อดึงกำลังซื้อจาก กลุ่มลูกค้าและนักลงทุนชาวต่างชาติ ที่ปัจจุบันให้ความสนใจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยค่อนข้างมาก เพราะมีข้อได้เปรียบในภูมิภาคหลายประการ นอกจากจะมีทำเลที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังเป็นแหล่งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการเปิดขายมากที่สุดในกลุ่มอาเซียนเขต

ลุ่มแม่น้ำโขง อีกทั้ง ราคาเฉลี่ยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว และห้องชุดพักอาศัย ยังถูกกว่าหลายประเทศด้วย

ขณะเดียวกัน ศักยภาพของทำเลที่อยู่บริเวณรถไฟฟ้าและการลงทุนเส้นทางรถไฟฟ้าใหม่ๆ ในไทยยังเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอนาคต โดยในช่วงปี 2559 ที่ผ่านมาจึงเห็นผู้ประกอบการไทยเริ่มปรับตัวโดยการออกไปรุกตลาดต่างชาติอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นต้น

ด้าน น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันยังมี ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางด้านการลงทุน โดยรูปแบบการพัฒนานั้นจะเน้นจับตลาดเฉพาะ เนื่องจาก การแข่งขันในตลาดค่อนข้างรุนแรงทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งสร้างความ แตกต่าง เช่น การใส่เรื่องการบริการด้วยเชนโรงแรมเข้าไปใส่ในโครงการ หรือแม้แต่การพัฒนาโครงการจะต้องเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส แต่ใช่ว่าทุกทำเลจะพัฒนาโครงการรูปแบบดังกล่าวได้ เนื่องจากจะต้องมีแปลงที่ดินขนาดใหญ่พอ หรือต้องอยู่ จุดตัดของถนน ซึ่งในอีก 2-3 ปี จะเห็นโครงการรูปแบบมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสามย่าน เกิดโครงการสามย่านมิตรทาวน์ สีลมจากการรวมกันของซีพีเอ็นและดุสิตธานี และบริเวณที่ดินโรงเรียนเตรียมทหารของทีซีซี แลนด์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เกิดความคึกคักในย่านธุรกิจกลางเมือง

นายพงศธร จอม สาลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นทายาทธุรกิจเกลือปรุงทิพย์ ได้หันมารุกธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดได้เปิดโครงการฟินน์ สุขุมวิท 31 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์โครงการที่สองภายใต้แบรนด์ฟินน์ มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท พัฒนาเป็นอาคารสูง 8 ชั้น รวม 63 ยูนิต ในสไตล์โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่ ราคาขายเฉลี่ย 1.75 แสนบาท/ตารางเมตร หรือขนาด 36 ตารางเมตร ราคาต่อยูนิตเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขาย 30% คาดว่าจะสามารถปิดการขายในปลายปีนี้ ปัจจุบันซัพพลายของโครงการคอนโดที่เกิดขึ้นในย่านสุขุมวิทถึงเอกมัยมีจำนวน 3,000 ยูนิต ดูดซับไปแล้ว 66%

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม รูปแบบลักซ์ชัวรี่ในซอยสุขุมวิท 31 และอีกหนึ่งโครงการจะเป็นคอนโดมิเนียมในย่านพระราม 9 ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้พัฒนาโครงการฟินน์ อารีย์ ซอย 2 มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 79 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 95% จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าได้ในช่วงกลางปีนี้ และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หาดเทียนบีช รีสอร์ท รูปแบบวิลล่าริมทะเล จำนวน 70 หลัง บนหาดเทียนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี บนเนื้อที่ 117 ไร่ และโรงแรมเดอะบีช คลับ บายหาดเทียน จำนวน 74 ห้อง

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์