LPNเตรียมเปิดคอนโดลุมพินีวิลล์พระนั่งเกล้าฯมูลค่าโครงการ1พันล้าน
Loading

LPNเตรียมเปิดคอนโดลุมพินีวิลล์พระนั่งเกล้าฯมูลค่าโครงการ1พันล้าน

วันที่ : 24 มีนาคม 2560
LPNเตรียมเปิดคอนโดลุมพินีวิลล์พระนั่งเกล้าฯมูลค่าโครงการ1พันล้าน

 แอลพีเอ็นเตรียมเปิดขายคอนโด ลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิวมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ พร้อมอัดโปรโมชั่นลดทันที 20% และผ่อนเพียง 2,000 บาทต่อเดือน

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียม บนทำเลรัตนาธิเบศร์-สะพานพระนั่งเกล้า

โดยแผนงานขายโครงการลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว บริษัทได้ใช้กลยุทธ์การขายด้วยการเปิดลงทะเบียนในทุกช่องทาง ได้แก่ ผ่านเว็บไซต์ www.lpn.co.th, ผ่านสำนักงานขาย และผ่าน LPN Call Center เพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ โดยห้องชุดทั่วไปราคาเฉลี่ยเริ่มที่ 50,000 บาทต่อตารางเมตร ชำระเงินจองและผ่อนดาวน์ล่วงหน้าทั้งหมด 8 งวด เริ่มงวดละ 2,000 บาทต่อเดือน พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษสำหรับห้องชุดขนาด 22.5 ตารางเมตร รับส่วนลดสูงสุด 20% ในวันโอนกรรมสิทธิ์

สำหรับโครงการลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร บนเนื้อที่โครงการประมาณกว่า 9 ไร่ รวมห้องชุดอาศัยประมาณ 900 ยูนิต โดยมีรูปแบบห้องชุดขนาด 22.50-35.00 ตารางเมตร โดยจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนมีนาคม และจะพร้อมเข้าพักอาศัยได้ในช่วงปลายปี 2560

ทั้งนี้ ภายในโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ได้แก่ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องเรียนรู้ ห้องคุณหนู ห้องเปี่ยมสุข ห้องเฮาส์เวิร์ค สนามเด็กเล่น และสวนรวมใจ ที่จอดรถประมาณ 300 คัน และยังมีบริการรถตู้รับ-ส่ง จากโครงการไปยังรถไฟฟ้าสถานีไทรม้า และสถานีสะพานพระนั่งเกล้า

 ย่านพระนั่งเกล้าเป็นทำเลคุณภาพ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้เช่าที่ต้องการอยู่อาศัยเอง รวมถึงนักลงทุน โดยปัจจัยหลักที่ส่งเสริมให้การตลาดคอนโดมิเนียมในย่านนี้ขยายตัวมากขึ้น คือ การเชื่อม 3 โหมดการเดินทาง ทั้งรถยนต์ รถไฟฟ้า และเรือโดยสาร เข้าด้วยกัน ซึ่งถือเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางด้านบริการขนส่งมวลชนที่ครบถ้วน ทำให้ทำเลดังกล่าวเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีนายโอภาส กล่าว

นายโอภาส กล่าวอีกว่า รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เชื่อมต่อทุกเส้นทางจากนนทบุรี-กรุงเทพฯ อยู่ใกล้กับโครงการถึง 2 สถานี ได้แก่ สถานีไทรม้า และสถานีสะพานพระนั่งเกล้า สามารถช่วยลดระยะเวลาการเดินทางของคนทำงานในเมือง อีกทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้านี้ยังผ่านพื้นที่ที่เป็นแหล่งงานสำคัญๆ เช่น ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี และหน่วยงานระดับประเทศ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ อย่างเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต เป็นต้น

นอกจากนี้ แผนการดำเนินงานหลังจากนี้ บริษัทเตรียมขยายโครงการต่อทันทีในย่านดินแดง-ราชปรารภ และเกษตร-งามวงศ์วาน ในช่วงไตรมาส 2/60 นี้ คาดจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะทำเลดังกล่าวมีระดับความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าเป็นจำนวนมากในราคาที่เหมาะสม (Affordable Price) และตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนเมืองได้จริง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น