APXเปิดแผนธุรกิจปี60 ชู Tourism Real Estate ดึงดูดลูกค้า
Loading

APXเปิดแผนธุรกิจปี60 ชู Tourism Real Estate ดึงดูดลูกค้า

วันที่ : 24 มีนาคม 2560
APXเปิดแผนธุรกิจปี60 ชู Tourism Real Estate ดึงดูดลูกค้า

 “APX” เปิดแผนธุรกิจปี 60 ชูจุดเด่น “Tourism Real Estate” พัฒนาโครงการแตกต่างคู่แข่ง เน้นพื้นที่ความเจริญ-แหล่งท่องเที่ยวดึงดูดลูกค้า

นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APX เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานงานปี 2560 จะเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องจากปี 2559 ที่ผ่านมา ตามนโยบาย คือ มุ่งเน้นพัฒนาอสังหาฯ ที่เกาะติดกับความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ Tourism Real Estate ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีให้กับริษัทและผู้ซื้อโครงการทั้งระยะสั้นจนถึงระยะยาว

สำหรับโครงการพัฒนาตามแผนดำเนินงานในปี 2560 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ APX ต่อเนื่องจากปี 2559 ได้แก่ 1.โครงการ M venpick Resort &Residences ตั้งอยู่ริมหาดนาจอมเทียน พัทยา เป็นอาคารชุดประเภท โรงแรมสูง 34 ชั้น 264 ห้องพัก อาคารชุดพักอาศัย สูง 37 ชั้น 196 ห้องชุด และ Pool Villas 34 หลัง ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปี 2559 โดยปัจจุบันบริษัทได้ขายอาคาร โรงแรมให้แก่ผู้ลงทุนโรงแรม และคงเหลือห้องชุดในอาคาร M venpick Residenes และ Pool Villas บางส่วนคิด เพื่อการขาย และโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2560 นี้

            2.โครงการ Sheraton Phuket Grand Bay Resort ตั้งอยู่บนเนินเขา ติดชายทะเล 650 เมตร ที่อ่าวปอ ภูเก็ต ที่ดินโครงการประมาณ 70 ไร่ ประกอบด้วย โรงแรม Sheraton Phuket จำนวน 183 ห้องพัก มูลค่าโครงการประมาณ 2.19 พันล้านบาทและ Grand Bay Residences เป็น Pool Villas 80 หลัง จำนวน 150 ห้องพัก มูลค่าโครงการประมาณ 2.0 พันล้านบาท

ทั้งนี้ กำหนดงานก่อสร้าง และตกแต่งในส่วนของ Residences แล้วเสร็จให้โอน และรับรู้รายได้ประมาณปลายปี 2562 และโรงแรม Sheraton Phuket กำหนดงานก่อสร้างตกแต่งแล้วเสร็จ เปิดให้บริการประมาณกลางปี 2563 รวมมูลค่าโครงการประมาณ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งเฟสแรกเปิดขายไปได้มากแล้ว

3.โครงการ Four Points by Sheraton and Vantage Point Residences ตั้งอยู่ริมชายหาดจอมเทียน พัทยา ที่ดินโครงการประมาณ 10.5 ไร่ ซึ่งบริษัทไปซื้อโรงแรมเก่าชื่อ Sigma Resort สูง 15 ชั้น บริษัทเริ่มแผนพัฒนาโดยการปรับปรุง และตกแต่งอาคารโรงแรม และจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อ และการบริหารโรงแรมโดยเชน Four Points by Sheraton

โดยเหมาะสมกับนักท่องเที่ยวที่นิยมเข้าพักในบริเวณดังกล่าว มีจำนวนห้องพัก 307 ห้องพัก มูลค่าโครงการเมื่อตกแต่งแล้วเสร็จ ประมาณ 1.98 พันล้านบาท กำหนดเปิดให้บริการปลายปี 2561 ซึ่งมีส่วนที่ว่างคงเหลืออีก 4 ไร่ จะพัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัยชื่อ Vantage Point จำนวนห้องชุด 338 ห้องชุด เพื่อการขาย มูลค่าโครงการ 1.85 พันล้านบาท กำหนดสร้างเสร็จปลายปี 2563 รวมมูลค่าโครงการ 3.83 พันล้านบาท

4.โครงการ Hyatt Centric Phuket Resort & Residences ตั้งอยู่ริมหาดไม้ขาว ภูเก็ต บนเนื้อที่ดิน 14 ไร่ เป็นที่ดินแปลงใหม่ล่าสุดที่บริษัทเพิ่งจะประมูลซื้อได้มาจากกรมบังคับคดี มีหน้ากว้าง 195 เมตรติดชายทะเล จะพัฒนาเป็นโรงแรม Hyatt Centric มีจำนวนห้องพัก 170 ห้องพัก มูลค่า 1.44 พันล้านบาท และส่วน Hyatt Residences มีจำนวนห้องชุด 106 ห้องชุดเพื่อการขาย มูลค่า 1.4 พันล้านบาท กำหนดก่อสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จกลางปี 2563 รวมมูลค่าโครงการ 2.85 พันล้านบาท

ดังนั้น จากแผนการดำเนินงานที่มีความชัดเจนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า จึงมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทในอนาคตเติบโต สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ตอกย้ำถึงความเป็นมืออาชีพของผู้บริหารที่พร้อมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ในระดับแนวหน้าของเมืองไทย ภายใต้จุดขายที่ไม่เหมือนใคร

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น