APXบุกทำเลท่องเที่ยวอสังหาฯแนวใหม่ สร้างรายได้ยาว5ปี
หุ้น APX ดีเดย์เทรดรอบใหม่ 27 มี.ค. นำเสนอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตมั่นคง ดึงเชนระดับโลกบริหาร สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ซื้อ ตลาดฯเตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลให้ดี ราคาวันแรกไม่มีซีลลิ่ง-ฟลอร์
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APX ซึ่งหุ้นจะกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 27 มีนาคม 2556 เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าในการทำอสังหาริมทรัพย์แนวใหม่ ที่มีคู่แข่งไม่มากนัก โดยเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น จ.ภูเก็ตและจ.ชลบุรี พร้อมดึงเชนระดับโลกบริหารโรงแรมและเรสิเดนซ์ เข้ามาบริหารจัดการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการและสร้างรายได้ที่ดีให้ลูกค้าที่เข้าลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ ซึ่งจะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป และทยอยรับรู้รายได้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ขณะเดียวกันจะมองหาโอกาสซื้อโครงการเพื่อนำมาพัฒนาและสร้างรายได้ได้รวดเร็ว ส่วนโครงการ Movenpick Residenes และ Pool Villas บางส่วน กำลังเปิดขาย
"ผมมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 ปี มองว่าโครงการที่อยู่ในทำเลท่องเที่ยวยังมีความต้องการสูงทั้งคนไทยและต่างประเทศ ขณะที่นักท่องเที่ยวก็มีการเติบโตขึ้นทุกปี อีกอย่างน้อย 5% จึงเชื่อมั่นว่าธุรกิจของเอเพ็กซ์ จะสามารถสร้างผลกำไรที่ดี โดยมีแหล่งเงินทุนพร้อมทั้งสินเชื่อโครงการและเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท" นายพงษ์พันธ์ กล่าว
สำหรับการถือหุ้นในบริษัทเอเพ็กซ์ฯ นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ได้เข้ามาซื้อบริษัทซันวู้ดฯ ตั้งแต่ปี 2550 และพลิกฟื้นธุรกิจจนมีกำไรจำนวน 64 ล้านบาทในปี 2558 และมีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาทในปี 2559 ปัจจุบันถือหุ้นประมาณ 18% ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่น มีนายชาญ บูลกุลและนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ถือรวมกันประมาณ 15-16% นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล นายวิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร เข้ามาลงทุนประมาณ 1 ปีครึ่ง การซื้อขายหุ้นในวันแรก ผู้ถือหุ้นใหญ่จะขายหุ้นได้คนละประมาณ 45% และคงจะไม่เกิดเหตุการณ์ผู้ถือหุ้นใหญ่เทขายหุ้นซ้ำรอย บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่งฯ (SGF)
ปัจจุบันบริษัทยังมีขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการบริษัทอนุมัติและเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนนี้ เห็นชอบให้ลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์)จากหุ้นละ 1 บาทเหลือ 0.25 บาท เพื่อล้างขาดทุนทั้งหมด
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หุ้น APX จะเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยไม่มีกรอบราคาสูงสุดและต่ำสุด (ซีลลิ่งและฟลอร์) จึงขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลบริษัทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2542 ที่ราคา 2.80 บาทต่อหุ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ