พีดีเฮ้าส์ฯ รุกตลาดรับสร้างบ้านชูบ้านประหยัดพลังงานเรือธงสู้ศึก พร้อมชี้ตลาดรวมปีนี้พุ่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน

นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ยอดขายเติบโตดีอยู่ที่กว่า 200 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 2 เดือนสุดท้ายปี 2559 (พ.ย.-ธ.ค.) จบไตรมาสแรกน่าจะมียอดขายที่ 270-290 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 2 บริษัท ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 200-240 ล้านบาท เพราะจะหันมาเน้นและเร่งลงมืองานก่อสร้างบ้านให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้ คาดว่าครึ่งปีแรกนี้บริษัท จะมียอดขายราว 500 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์การแข่งขันของ บริษัทนั้น ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำสร้างบ้านประหยัดพลังงานและใช้แข่งขันกับคู่แข่งในตลาด ซึ่งตอนนี้การแข่งขันกันสูงมาก และแรงกดดันจากผู้บริโภคที่มีอำนาจการต่อรองสูงในช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ ส่งผลให้บริษัทต้องหันมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ทั้งลดราคาและมีของแถมเพื่อให้สามารถปิดยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

ด้านตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศในปี 2560 ประเมินว่ามีมูลค่ารวมประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1.มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีสัดส่วน 55-60% หรือ 8,000 ล้านบาทเศษ และ 2.มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด มีสัดส่วน 40-45% หรือคิดเป็น 5,500-6,000 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ผ่านมา โดยตลาดในต่างจังหวัดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะ 10 ปีที่

ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายสาขาและตลาดของกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดจากผู้รับเหมาทั่วไปได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนความเข้าใจของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 10-15 ปีก่อนหน้านี้

ปัจจุบันค่าก่อสร้างบ้านคุณภาพระดับปานกลาง-สูง ของกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำ พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป จนถึง 3 หมื่นบาท โดยขึ้นอยู่กับดีไซน์แบบบ้านและความสวยงาม คุณภาพวัสดุ การให้บริการก่อนการขายและหลังการขายหรือการรับประกัน ในขณะที่รายเล็กและผู้รับเหมารายย่อยทั่วไปเน้นจับตลาดล่างหรือกลุ่มลูกค้าที่ไม่เน้นดีไซน์หรือคุณภาพวัสดุและความ

น่าเชื่อถือมากนัก ราคาค่าก่อสร้างบ้านเริ่มต้นเฉลี่ย 1.25 หมื่นบาทขึ้นไป ทั้งนี้ช่วงท้ายไตรมาสแรก บริษัทรับสร้างบ้านกลุ่มผู้นำบางรายเร่งโหมทำการตลาด โดยหันมารุกจับกลุ่มตลาดล่างและแข่งขันกับรายเล็กขึ้น ทำให้ตลาดบ้านสร้างเองราคา 2-3 ล้านบาทสูงขึ้น

ทั้งนี้ มูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านปีนี้จะขยายตัวตามเป้าหมายได้นั้น ผู้ประกอบการควรร่วมมือกันจัดกิจกรรมกระตุ้นกำลังซื้อและสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคพร้อมๆ กัน โดยในช่วงไตรมาส 2 ทางบริษัทจะร่วมกับสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เตรียมจัดงาน "มหกรรมบ้านและวัสดุก่อสร้าง อุบลราชธานี" ระหว่าง วันที่ 8-11 มิ.ย. 2560 ณ หอประชุม ไพรพยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ทั้งนี้เพื่อเป็นเวทีกลางให้ผู้ประกอบการได้พบกับผู้บริโภคโดยตรง

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์