อสังหาฯลอนดอนบูม แนะลงทุน-กระจายเสี่ยง
การตัดสินใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศมีองค์ประกอบที่น่าสนใจทั้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน การขยายพอร์ตการลงทุน และการกระจายความเสี่ยง จากตลาดในประเทศ รวมถึงแนวโน้ม "โอกาสการเติบโต" ในประเทศนั้นๆ สำหรับ "อังกฤษ" เป็นอีกตลาดที่น่าลงทุน ด้วยความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และแนวทางพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตภายในประเทศ
ริชาร์ด สคีน ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหา ริมทรัพย์ และการลงทุนระหว่างประเทศ บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มทุนไทยสนใจลงทุนอสังหาฯ ในอังกฤษ โดยเฉพาะ "ลอนดอน" มากขึ้น
นอกจากนี้ มีการซื้ออสังหาฯ เพื่อ การลงทุนและซื้อให้บุตรหลานอยู่อาศัยระหว่างการศึกษาต่อที่อังกฤษ ปัจจุบันพบว่า ไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ไม่ใช่ยุโรป (Non-EU) ส่งบุตรหลานเรียนที่อังกฤษ มากสุด เช่นเดียวกับนักเรียนจากจีนและอินเดีย "คนไทยเข้าไปเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลต่างๆ ในอังกฤษ หรือการขยายสู่ ธุรกิจต่างๆ โดยเริ่มขยายการลงทุนอสังหาฯ ในลอนดอนชั้นในมากขึ้น จากเดิมกระจุกตัวการลงทุนในย่านเคนซิงตันกันมาก"
บริษัทได้ผนึกความร่วมมือกับ "เทเลอร์วิมพีย์" ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในตลาดอังกฤษ เพื่อร่วมกันทำตลาดเจาะกลุ่มนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน อสังหาฯ ในอังกฤษ โดยเฉพาะลอนดอน ซึ่งเทเลอร์ วิมพีย์ ประเมินว่า ตลาดดังกล่าวเติบโต 80% ภายใน 10 ปี จากนี้ ถือเป็นการเข้ามาทำตลาดไทยครั้งแรกของเทเลอร์ วิมพีย์ เบื้องต้นมีการจัดอีเวนท์ "The Taylor Wimpey Central London Capital Collection" นำเสนอแบบจำลองโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Westminster Quarter ทำเลใกล้หอนาฬิกาบิ๊กเบน โครงการอพาร์ทเมนท์ Paddington Exchange
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ลอนดอน ไตรมาสแรกที่ผ่านมา มียอดขายประมาณ 5,500 ยูนิต เป็นยอดขายจากโซนลอนดอนชั้นนอก 51% อีก 49% จากโซนลอนดอนชั้นใน ใกล้เคียงกับปี 2559 คิดเป็นยอดขายที่มีอัตราการเติบโต "เท่าตัว" เมื่อเทียบกับปี 2552 -2555 ส่วนยอดขาย อสังหาฯในลอนดอนปี 2559 อยู่ที่ 2.2 หมื่นยูนิต
ขณะที่จำนวนการก่อสร้างอสังหาฯ ในลอนดอน พบว่ามีจำนวน 59,000 ยูนิต ที่อยู่ ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2558 และ ปี 2559 หรือยังคงมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากถึง 150% เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยช่วง 5 ปี ในอดีต ระหว่างปี 2552-2556
ส่วนราคาอสังหาฯ ในลอนดอนโดยเฉลี่ย ช่วงไตรมาสแรก อยู่ที่ประมาณ 910 ปอนด์ต่อตารางฟุต หรือประมาณ 4 หมื่นบาทต่อ 0.09 ตร.ม. หากประเมินเฉพาะราคาอสังหาฯ ในลอนดอนชั้นใน มีราคาเฉลี่ย 6.1 หมื่นบาทต่อ 0.09ตร.ม. ชั้นนอก 2.8 หมื่นบาทต่อ 0.09 ตร.ม.
โดยความต้องการอสังหาฯ ในอังกฤษยังมีอยู่สูงมากกว่าซัพพลายหรือดีมานด์ อยู่ที่ 3.6 แสนครัวเรือน เมื่อเทียบกับซัพพลาย ที่รวมทั้งระหว่างก่อสร้างและขอใบอนุญาต ก่อสร้าง อยู่ที่ 1.9 แสนหน่วย
"ราคาอสังหาฯ ในลอนดอน เติบโตต่อตารางฟุต อยู่ที่ 7% ต่อปี โดยบางสถาบันการเงินในอังกฤษคาดการณ์ว่าหลังจากกรณีเบร็กซิทจบลง จะส่งผล ให้ราคาขยับขึ้นต่อได้อีก"
อย่างไรก็ดี อังกฤษจะมีเหตุ ก่อการร้าย แต่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อ ภาพรวมตลาดอสังหาฯมากนัก ซึ่งเหตุ ก่อการร้ายเป็นปัญหาที่พบเห็นในหลายประเทศทั่วโลก สำหรับอังกฤษมีมาตรการความปลอดภัยและการป้องกันที่แข็งแกร่ง
"อังกฤษมีความปลอดภัยในระดับนานาชาติในแง่การลงทุน และมีความยืดหยุ่นด้านการถือครองกรรมสิทธิ์รวมถึงการถือครองอสังหาฯ"
โดยภาพรวมการซื้ออสังหาฯ ในลอนดอน ยังน่าสนใจอยู่มาก จากปัจจัยหนุนแก่ผู้ลงทุน ทั้งเงินปอนด์อ่อนค่า 15% เมื่อเทียบเงินบาท อสังหาฯ ใจกลางลอนดอน หรือ "เซ็นทรัล ลอนดอน" ยัง น่าสนใจ คาดว่าตลาดนี้ราคามีแนวโน้ม ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ เบร็กซิทส่งผลให้ราคาอสังหาฯลดลง รวมถึงดอกเบี้ยปรับลดลงเช่นกัน จืงเป็น โอกาสที่น่าเข้าไปลงทุนในหลายรูปแบบ อาทิ ลงทุนเอง ร่วมทุน ลงทุนผ่านกองรีทต่างๆ
ในอนาคตยังจะมีโครงการพัฒนาด้านคมนาคมทำให้เมืองขยายตัว อีกมาก เช่นโครงการขนส่งมวลเบา และ ไฮสปีดเรลลิ้งค์ ข้อมูลจากเอเยนซีทั้ง คอลลิเออร์ส ซีบีอาร์อี ไนท์แฟรงค์ และเจแอลแอล ประเมินว่าตลาดอสังหาฯ ในลอนดอน มีโอกาสเติบโตได้ถึง 16% ภายใน 4 ปีจากนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทน การลงทุนเฉลี่ย 3-3.5% ต่อปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ