ทุนจีนบุกหนักอสังหาไทย ทั้งร่วมทุนและพาลูกค้ามาซื้อส่อคึก2ปีแนวรถไฟฟ้า-เขตศก.พิเศษ
Loading

ทุนจีนบุกหนักอสังหาไทย ทั้งร่วมทุนและพาลูกค้ามาซื้อส่อคึก2ปีแนวรถไฟฟ้า-เขตศก.พิเศษ

วันที่ : 26 กรกฎาคม 2560
ทุนจีนบุกหนักอสังหาไทย ทั้งร่วมทุนและพาลูกค้ามาซื้อส่อคึก2ปีแนวรถไฟฟ้า-เขตศก.พิเศษ

    ทุนจีนบุกหนักตลาดเมืองไทย     

    ทุนจีนเดินหน้ารุกอสังหาฯ ไทย คาดยังมากขึ้นใน 1-2 ปีหน้า ได้ทั้งแหล่งเงินทุน-หาลูกค้าชาวจีนช่วยซื้อ

          นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มทุนจีนยังสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง คาดจะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยอีก 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากชาวจีนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยที่การมาร่วมทุนนั้นไม่ใช่ต้องการเพียงแค่เงินทุน ยังได้ฐานลูกค้ากลุ่มลูกค้า ชาวจีนมาซื้อโดยเฉพาะโครงการคอนโด มิเนียม เนื่องจากจะต้องพึ่งกำลังซื้อจากต่างประเทศ หลังจากกำลังซื้อในประเทศเริ่มชะลอตัวลง

          "ทำเลหลักๆ ที่กลุ่มนักลงทุนจีนสนใจคือต้องสอดคล้องกับความนิยมของนักท่องเที่ยว จีน คือตามแนวรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ในต่างจังหวัดคือ พัทยา และเชียงใหม่ รวมไปถึงทำเลที่กลุ่มผู้ร่วมทุนด้วยจะชักชวนไป บางราย สนใจในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน" นายสุรเชษฐ กล่าว

          นายสัมมา คีตสิน นักวิชาทางการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า กลุ่มทุนจีนจะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางการลงทุน ซึ่งการที่รัฐบาลผลักดันให้เกิดรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมจีน สปป.ลาว และไทย เป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่จะเห็น กลุ่มทุนจีนจะเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการพัฒนาพื้นที่จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษก็ให้ความสนใจเช่นเดียวกัน

          "ในอนาคตจะเห็นกลุ่มทุนจีนอีกมาก เพราะไทยอยู่ใกล้สามารถเดินทางมาง่าย ไม่ว่า จะเป็นทางอากาศ ทางรถ หรือทางเรือผ่านแม่น้ำโขง ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นกลุ่มทุนจีนออกไป ลงทุนในหลายจังหวัดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ สงขลา หรือภูเก็ต เนื่องจากการที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตต้องอาศัยการลงทุนต่างประเทศ" นายสัมมา กล่าว

          ทั้งนี้ กลุ่มทุนจีนที่เข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย ล่าสุดบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับบริษัท ซิติค คอนสตรัคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จากก่อนหน้านี้มีกลุ่มคิงไว กรุ๊ป เข้าซื้อกิจการบริษัท เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้ มูลค่าลงทุน 300 ล้านบาท บริษัท จงเทียน คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป ร่วมทุนกับบริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในพัทยา มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท

          บริษัท จุนฟา เรียลเอสเตท ร่วมทุนกับบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในพังงาและหัวหิน มูลค่า 3,000 ล้านบาท ธนาคารไชน่า ผิงอัน สนับสนุนสินเชื่อให้บริษัท คันทรี่กรุ๊ป พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท

          บริษัท กรีนแลนด์ กรุ๊ป ร่วมทุนกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในพัทยา บริษัท เทียนเฉิน กรุ๊ป พัฒนาโครงการคอนโดในกรุงเทพฯ 4,000 ล้านบาท บริษัท โฮมซิตี้ กรุ๊ป พัฒนาโครงการคอนโดในหัวหิน 2,000 ล้านบาท บริษัท คันทรี่ การ์เด้น โฮลดิ้ง ร่วมทุน กับบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม ทำคอนโดในกรุงเทพฯ 6,800 ล้านบาท

          บริษัท เชิ่ง ตี้ เจีย กรุ๊ป ร่วมทุนบริษัท ไชยพัฒนา (ประเทศไทย) พัฒนาคอนโดระยอง มูลค่า 2,000 ล้านบาท บริษัท รอยัล ลี แอสเสท พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในภูเก็ต มูลค่า 7,800 ล้านบาท บริษัท ไชน่าเทียนเฉิน เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น พัฒนาโครงการคอนโดในกรุงเทพฯ มูลค่า 2,000 ล้านบาท บริษัท หลงไทย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป พัฒนาโครงการคอนโดนครปฐม มูลค่า 700 ล้านบาท เป็นต้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์