คลังปล่อยผี 'ตึกแถว' จัดอยู่หมวดที่อยู่อาศัยแทนพาณิชยกรรมจ่ายภาษีแค่ 0.5%
คลังถอย!รื้อใหม่ภาษีที่ดินผ่อนผัน บ้าน-อาคารพาณิชย์เซ้ง 30 ปีอยู่ในข่ายอยู่อาศัยเพดาน 0.5% เดิมโขก 2% ส่วนพักรายวันฟันเต็มๆ เอสเอ็มอีได้อานิสงส์ด้วย หวังช่วยผู้มีรายได้น้อย คาดโยนกมธ.ไฟเขียว ไม่เกิน 30 กันยายนนี้
สร้างความสับสนปั่นป่วนไปทุกประเภทกิจการสำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่กระทรวงการคลังเตรียมประกาศใช้วันที่ 1 มกราคม 2562 โดยเฉพาะธุรกิจบ้านเช่าที่ถูกผลักให้อยู่ในหมวดพาณิชยกรรมเสียภาษีเพดานสูงสุด 2% แต่ในทางปฏิบัติแล้วผู้รับเคราะห์คือผู้เช่า ซึ่งทางออกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจึงหาทางออกสะท้อนปัญหาเพื่อเร่งแก้ไขก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้
แหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากข้อเรียกร้องดังกล่าว ล่าสุดสศค.ได้ พิจารณาปรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่เพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ด้วยการผ่อนผันประเภทอาคารเช่าเซ้ง 30 ปีให้อยู่ในข่ายที่อยู่อาศัย เสียภาษีต่ำสุด 0.03% เพดานสูงสุด 0.5% จากเดิม เสียภาษีเพดานสูงสุด 2% ตามประเภทพาณิชยกรรม ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่กลับต้องแบกรับภาระภาษีที่แทรกอยู่ในค่าเช่าจากเจ้าของอาคาร
ขณะเดียวกัน ยังผ่อนผันอาคารเช่าเพื่ออยู่อาศัย หากทำสัญญากับผู้เช่าตั้งแต่ 6 เดือน-1 ปีขึ้นไป ให้ถือว่าเป็นอาคารเช่าประเภทที่อยู่อาศัย หากอายุสัญญาเช่าต่ำกว่าที่กล่าวมา ให้อยู่ในข่ายพาณิชยกรรม อย่างไรก็ดีระยะเวลายังไม่ได้ข้อยุติว่าจะเลือกสัญญาเช่าตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป, 1 ปีขึ้นไป หรือ 3 ปีขึ้นไป แต่ความน่าจะเป็นน่าจะอยู่ที่ 1 ปีขึ้นไป มองว่าน่าจะเหมาะสม
เมื่อสอบถามว่า หอพัก อาพาร์ตเมนต์ จะอยู่ในข่ายยกเว้นด้วยหรือไม่ เพราะระยะเวลาการเช่าแต่จะรายไม่แน่นอน มีการย้ายเข้าออกตลอดเวลา แหล่งข่าวระบุว่า ต้องดูที่เจตนาของเจ้าของอาคาร ว่า หากทำสัญญาเช่านาน ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หรือ 1 ปีขึ้นไปก็จะเสียภาษีอัตราที่อยู่อาศัย
ส่วนห้องพักรายวันที่ทำรูปแบบโรงแรม ต้องเสียประเภทพาณิชยกรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งอาคารชุดด้วย ส่วนกลุ่มที่เช่าบ้าน-คอนโดมิเนียมอยู่อาศัยจากเจ้าของเดิม แต่กลับนำไปปล่อยให้เช่าช่วงต่อ เชื่อว่าจะมีการตรวจสอบจากคนในพื้นที่ว่า บ้านเช่า หรือห้องเช่าดังกล่าวปล่อยเช่าช่วงจริงหรือไม่ หากพบสามารถร้องเรียนมายังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบได้ เพื่อเรียกเก็บภาษีในอัตราพาณิชย์ต่อไป ส่วนโรงแรม จะเสียภาษีประเภทพาณิชย์เช่นเดิม เพราะไม่ปรากฏว่า มีคนเช่าโรงแรมเพื่อพักอาศัยระยะยาวนานถึง 30 ปี
"ได้พิจารณากลุ่มอาคารอยู่อาศัยสำหรับเช่าไว้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเซ้ง 30 ปี กลุ่มเช่า 5-10 ปี และกลุ่มเช่าระยะสั้น ซึ่งมีตัวเลขทั่วประเทศ ที่สูงมากหลายสิบล้านอาคารทั่วประเทศ"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี จะยังคงอยู่ในหมวดพาณิชยกรรม แต่จะพิจารณาลดหย่อนให้ เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้สรุปว่าตัวเลขจะออกมาที่เท่าใดจึงเหมาะสม เนื่องจากมีการร้องเรียนจำนวนมาก ตั้งแต่ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร และกิจการเล็กๆที่เพิ่งเริ่มต้น ส่วนการใช้อาคารรูปแบบมิกซ์ยูส เช่นชั้นล่างเป็นร้านโชวห่วย ชั้น 2 ชั้น 3 เป็นที่อยู่อาศัย ก็จะเสียภาษีตามพื้นที่ที่ใช้งาน เช่น ชั้นล่าง 20 ตารางเมตร ทำโชวห่วยก็คำนวณภาษีประเภทพาณิชย์ ส่วนชั้น 2-3 จะเสียภาษีอัตราที่อยู่อาศัยตามขนาดพื้นที่ใช้สอยเช่นกัน อย่างไรก็ดีจะสรุปตัวเลขเข้าสู่การพิจารณาของกมธ.ให้ทันก่อนวันที่ 30 กันยายน 2560 ที่จะพิจารณา วันสุดท้าย
นายอธิป พีชานนท์ กรรม การบริหาร สภาหอการค้าแห่งประ เทศไทย และประธานสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ระบุบนเวทีสัมมนาวิชาการ เรื่องเจาะลึกภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยได้สอบถาม นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษา ด้านเศรษฐกิจการเงิน สศค.ว่า การตีความประเภทบ้านเช่า ที่จะผ่อนผันจากประเภทพาณิชย์ ให้อยู่ในหมวดที่อยู่อาศัย ระยะเวลาควรอยู่ที่ 1 ปีขึ้นไป ใช่หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบสั้นๆจากนายพรชัย พยักหน้ารับว่าใช่ ขณะที่การใช้พื้นที่แบบมิกซ์ยูส ทั้งพักอาศัยและการค้า จะพิจารณาอย่างไร ซึ่งมองว่าน่าจะอยู่ในกลุ่มอยู่อาศัย
อย่างไรก็ดี นายอธิป ย้ำว่า จะรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะจากสมาชิกสมาคมทั่วประเทศ จ้างมหาวิทยาลัยหอการค้าศึกษาข้อเสนอของภาคเอกชน และเปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง ก่อนผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของกมธ.พิจารณาร่างกฎหมายภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างต่อไป ก่อนผ่านไปยัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ด้านนายพรชัย จากสศค. ระบุว่า ที่ผ่านมาภาษีที่ดินไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใดกลับกันเจ้าของที่ดินจะได้รับความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ตัวเลขการจัดเก็บภาษียังต่ำ อย่างที่อยู่อาศัย เพียง 0.03% แต่เพดานภาษี จะกำหนดไว้ให้ท้องถิ่นเป็นผู้จัดเก็บแต่ไม่เกินเพดาน 0.5% แต่เชื่อว่าไม่มีพื้นที่ไหนเรียกเก็บเต็มเพดาน
ขณะที่นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยยืนยันว่า จะเสนอให้ กระทรวงการคลังและกมธ.ปรับลดอัตราภาษีที่สูงเกินไปให้ลดต่ำลงมา เพื่อความเหมาะสม และลดผลกระทบกับเจ้าของที่ดิน
นายเสริมชัย ผู้ร่วมเข้าฟังสัมมนาเจาะลึกภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างระบุว่า มีที่ดิน 200 ไร่ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งปัจจุบันทำการเกษตร ซึ่งมองว่าการทำเกษตรจะเสียภาษีที่ดินต่ำที่สุด แต่ในภาพรวมเชื่อว่าจะกระทบกับเจ้าของที่ดินเพราะจากไม่เคยเสียก็จะเสียทั้งหมด