ตลาดรับสร้างบ้านมีลุ้นQ4 เห็นสัญญาณขยายตัวภาคอีสาน-เหนือ
Loading

ตลาดรับสร้างบ้านมีลุ้นQ4 เห็นสัญญาณขยายตัวภาคอีสาน-เหนือ

วันที่ : 16 ตุลาคม 2560
ตลาดรับสร้างบ้านมีลุ้นQ4 เห็นสัญญาณขยายตัวภาคอีสาน-เหนือ

สมาคมไทยรับสร้างบ้านชี้ภาพรวมตลาดปรับตัวขึ้น เริ่มเห็นสัญญาณขยายตัวในภาคอีสานและเหนือ กลุ่มผู้ประกอบการชั้นนายังรุกทาการตลาดต่อเนื่อง เน้นบ้านระดับ 20 ล้านบาท เลี่ยงการแข่งขันราคา

ฝ่ายวิชาการ สมาคมไทยรับสร้างบ้านวิเคราะห์ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านพบว่า ในไตรมาส 3 ตลาดปรับตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แม้การแข่งขันราคาค่อนข้างรุนแรง ประเมินได้จากการโหมกันจัดโปรโมชันลดราคาบ้าน 10-30% ของบรรดาผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ด้วยสถานการณ์และความจาเป็นที่จะต้องรักษาส่วนแบ่งตลาด หรือยอดขายและรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านช่วงไตรมาส 4 คาดการณ์ว่าน่าจะยังขยายตัวใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือจะกลับมาขยายตัวดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนที่กาลังซื้อค่อนข้างซบเซา ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่ากาลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคยังทรงตัว

ทั้งนี้ สมาคมคาดการณ์ปริมาณบ้านเดี่ยวสร้างเองทั่วประเทศ ในปี 2560 มีจานวน 6 หมื่นหน่วยเศษ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.2-1.3 แสนล้านบาท แบ่งเป็นปลูกสร้างในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จานวน 2 หมื่นหน่วยเศษ คิดเป็นมูลค่า 4.5-5 หมื่นล้านบาท (ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 2.2-2.5 ล้านบาท) และปลูกสร้างในต่างจังหวัด จานวน 4 หมื่นหน่วยเศษ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7.5-8 หมื่นล้านบาท (ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 1.8-2 ล้านบาท) ในขณะที่ธุรกิจรับสร้างบ้านมีมูลค่าประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 8 พันล้านบาทและต่างจังหวัด 6 พันล้านบาท โดยเหตุที่ธุรกิจรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาดต่างจังหวัดน้อยกว่า เป็นเพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้บริการกับผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป

สำหรับภาพรวมการแข่งขันทั่วไป เชื่อว่ากลุ่มผู้ประกอบการชั้นนายังคงรุกทาการตลาดอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รายกลางและรายเล็กน่าจะลดโทนการแข่งขันลง ด้วยเพราะกังวลกับปัจจัยด้านต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่อาจจะปรับขึ้นในช่วงต้นปีหน้า รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานและค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้นตามกัน

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้านกล่าวเสริมว่า ปีนี้ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านมีการแข่งขันราคากันดุเดือดพอสมควร โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดในกลุ่มราคาบ้าน 1-2 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นรายใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 8 พันล้านบาท พบว่ามีผู้ประกอบการทา การตลาดและแข่งขันกันอยู่เกือบ 100 ราย โดยเน้นเจาะตลาด ราคาบ้าน 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ 1.กลุ่มราคาบ้าน 2-10 ล้านบาท 2.กลุ่มราคาบ้าน 10-20 ล้านบาท และ 3.กลุ่มราคาบ้าน 20 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้พบว่า  กลุ่มราคาบ้าน 2-10 ล้านบาท มีจานวนผู้ประกอบการร่วมแข่งขันชิงแชร์ส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มนี้มากที่สุด ในขณะที่กลุ่มราคาบ้านต่ากว่า 2 ล้านบาท มีการแข่งขันต่าสุดในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน ตลาดกลุ่มนี้จึงตกอยู่กับผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป

"เพื่อหลีกกลุ่มราคาบ้าน 20 ล้านบาทขึ้นไป แม้ว่าจะมีปริมาณและความต้องการปลูกสร้างบ้านต่อปีเพียงไม่กี่หน่วย แต่ปรากฏว่าผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่อยู่มานาน และเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคจานวนมากกว่า 10 ราย ต่างหันมารุกเจาะตลาดกันมากขึ้นในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา เหตุผลหลักๆ ก็เพราะต้อง การจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคากับกลุ่มแรก"

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ