วัสดุก่อสร้างราคาพุ่ง รับกำลังซื้อฟื้น
Loading

วัสดุก่อสร้างราคาพุ่ง รับกำลังซื้อฟื้น

วันที่ : 6 สิงหาคม 2561
วัสดุก่อสร้างราคาพุ่ง รับกำลังซื้อฟื้น

แนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น ต่อเนื่องด้วยความต้องการที่มีมากขึ้นจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน ดังนั้น ในครึ่งหลังปี 2561 ย่อมมีความท้าทายสูงแม้ความต้องการเพิ่มขึ้น

รักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบัญชีงบประมาณและวางแผน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ของตกแต่งบ้านครึ่งปีหลังยังเติบโตดีแม้จะมีปัจจัยลบเรื่องของราคาวัสดุที่ปรับขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ที่คาดว่าจะปรับขึ้นเฉลี่ยราว 5%

ทั้งนี้ จากความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวทั้งภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การทยอยปรับตัวของราคาพืชผลการเกษตรทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น รวมทั้งโครงการก่อสร้างภาคอสังหาฯ ที่ผลักดันตลาดเป็นบวก โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่และพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) คาดตลาดรวมจะโตที่ราว 3% บริษัทอาจมีการปรับราคาสินค้าบางตัวตามต้นทุนตลาด คาดทั้งปีจะเติบโต 2-3%

ด้าน พงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับราคาสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารในประเทศขึ้นเฉลี่ยราว 5% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้ตลาดสีโดยรวมจะโตได้ราว 5% ของมูลค่าตลาดรวมที่มีอยู่เกือบ 2 หมื่นล้านบาท

อิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ด้านผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เห็นสัญญาณผิดปกติ แม้ที่ผ่านมาราคาวัสดุทั้งปูนซีเมนต์และเหล็กจะขึ้นมาบ้าง ทั้งนี้ความต้องการใช้ทั้งในส่วนของโครงการภาคเอกชนและภาครัฐยังไม่มากเกินการผลิตที่มี ขณะที่สินค้านำเข้าจากจีน มีการพัฒนาคุณภาพและขายในราคาที่ถูกกว่าทำให้เกิดการแข่งขันกับสินค้าที่ผลิตในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการมีทางเลือก

อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เรื่องของราคาวัสดุเพิ่มขึ้น แต่ที่ควรระวังคือ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น รวมทั้งราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและรายได้ของผู้บริโภคที่จะตามไม่ทัน

สาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลเร่งผลักดันงานโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับความเชื่อมั่นของภาคเอกชนนั้นเริ่มฟื้นตัวจึงทำให้งานก่อสร้างใหม่มากขึ้น ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างมีมากขึ้นตาม ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้น และวัสดุบางประเภทอย่าง เช่น เหล็กเส้น ที่ผันผวนปรับขึ้นลง

ขณะเดียวกัน มีปัญหาด้านแรงงานขาดแคลนเป็นตัวกดดันอีก ดันให้ต้นทุนก่อสร้างปรับสูงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปมากขึ้น

สำหรับฝ่ายวิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่า ในช่วงปี 2561-2563 อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้างจะเติบโตดีจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในประเทศและส่งออกในอาเซียนเพิ่มขึ้น ขณะที่การแข่งขันในประเทศมีสูงจากสินค้านำเข้าราคาถูกโดยเฉพาะจากจีน

ด้านร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ร้านค้าสมัยใหม่ยังเป็นกลุ่มที่มีรายได้เติบโตดี สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ครบวงจรในปัจจุบันจึงมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ร้านค้าส่ง รายได้จะเติบโตไม่มาก แม้จะได้อานิสงส์จากการสั่งซื้อล็อตใหญ่จากภาครัฐ แต่อาจเผชิญกับการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากทั้งในกลุ่มผู้ค้าและผู้ผลิต

ทั้งนี้ ร้านค้าปลีกคาดรายได้มี แนวโน้มชะลอตัวจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ประกอบกับยังมีปัญหาด้านการบริหารจัดการต้นทุน ดังนั้นรายเล็กจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้สามารถประคับประคองกิจการได้ต่อไป

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์