สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC ไตรมาส 3/2566
วันที่ : 8 มกราคม 2567
ภาพรวมจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขาย (บ้านจัดสรรและอาคารชุด) ในพื้นที่ EEC 3 จังหวัด ระหว่างไตรมาส 1-3 ในปี 2566 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยไตรมาส 3 ปี 2566 มีจำนวนหน่วยที่เสนอขาย 51,550 หน่วย ลดลงร้อยละ -4.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขาย ในไตรมาส 3 ปี 2566 ของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยได้ทำการสำรวจเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย พบว่า ภาพรวมจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเสนอขาย (บ้านจัดสรรและอาคารชุด) ในพื้นที่ EEC 3 จังหวัด ระหว่างไตรมาส 1-3 ในปี 2566 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยไตรมาส 3 ปี 2566 มีจำนวนหน่วยที่เสนอขาย 51,550 หน่วย ลดลงร้อยละ -4.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีมูลค่า 173,628 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยเสนอขายของอาคารชุด 20,615 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 มีมูลค่า 75,583 ล้านบาท แต่มีหน่วยเสนอขายบ้านจัดสรร 30,935 หน่วย ลดลงร้อยละ -13.9 มีมูลค่า 98,045 ล้านบาท
การเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่ EEC 3 จังหวัด มีจำนวน 8,078 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 96.2 โดยมีมูลค่า 29,445 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3 ปี 2566 เป็นไตรมาสที่มีหน่วยเปิดตัวใหม่สูงสุดที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาทั้งประเภทอาคารชุดและบ้านจัดสรร โดยหน่วยเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.5 เป็นอาคารชุด และอาคารชุดทั้งหมดเปิดใหม่ในจังหวัดชลบุรี ขณะที่บ้านจัดสรรที่เปิดใหม่กระจายอยู่ในจังหวัดชลบุรีประมาณร้อยละ 46 และอยู่ในจังหวัดระยองและฉะเชิงเทราอีกจังหวัดละประมาณร้อยละ 27 ของหน่วยที่เปิดใหม่ใน EEC
ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 6,767 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 โดยมีมูลค่า 22,505 ล้านบาท โดยพบว่า เป็นการขายอาคารชุด 2,431 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.3 มีมูลค่า 8,678 ล้านบาท ซึ่งอาคารชุดเกือบทั้งหมดที่ขายได้ใหม่อยู่ในจังหวัดชลบุรีและเป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในช่วง 3 ไตรมาสแรก และเป็นการขายบ้านจัดสรร 4,336 หน่วย ลดลงร้อยละ -15.4 มีมูลค่า 13,826 ล้านบาท
ผลจากที่หน่วยของอาคารชุดเปิดใหม่มากกว่าที่ขายได้ใหม่มากได้ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 EEC 3 จังหวัดมีจำนวนหน่วยอาคารชุดเหลือขาย 18,184 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 มีมูลค่ารวม 66,905 ล้านบาท ขณะที่บ้านจัดสรรที่แม้ว่าจะมียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ยังมีจำนวนหน่วยที่ขายได้มากกว่าหน่วยที่เปิดตัวใหม่มากพอสมควร จึงทำให้มีหน่วยเหลือขาย 26,599 หน่วย ลดลงร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน มีมูลค่า 84,219 ล้านบาท
ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ให้ความเห็นต่อภาพรวมว่า “ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยของ EEC 3 จังหวัด มีการเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างคึกคักขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 และ 3 ปี 2566 โดยประมาณครึ่งหนึ่งของหน่วยเปิดตัวใหม่เป็นอาคารชุดที่ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งโครงการเหล่านี้ได้ดึงยอดขายในพื้นที่ EEC ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีข้อสังเกตว่า โครงการอาคารชุดที่ขายได้ดีมักจะเป็นโครงการที่มีการเปิดตัวภายในไตรมาส หรือไม่เกิน 2 ไตรมาสก่อนหน้า โดยโครงการอาคารชุดหลายโครงการที่เปิดมาก่อนหน้าก็จะยังขายไม่หมดและเป็นหน่วยสะสมในพื้นที่ สำหรับอีกเกือบครึ่งหนึ่งที่เปิดเป็นบ้านจัดสรร กระจายในพื้นที่ 3 จังหวัด พบว่า แม้ตลาดบ้านจัดสรรใน EEC มีหน่วยขายได้ใหม่มากกว่าหน่วยเปิดตัวใหม่ และทำให้มีหน่วยเหลือขายลดลงต่อเนื่อง แต่ยอดขายในช่วง 3 ไตรมาสต่ำกว่าปีก่อนทุกไตรมาส”...
การเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่ EEC 3 จังหวัด มีจำนวน 8,078 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 96.2 โดยมีมูลค่า 29,445 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3 ปี 2566 เป็นไตรมาสที่มีหน่วยเปิดตัวใหม่สูงสุดที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาทั้งประเภทอาคารชุดและบ้านจัดสรร โดยหน่วยเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.5 เป็นอาคารชุด และอาคารชุดทั้งหมดเปิดใหม่ในจังหวัดชลบุรี ขณะที่บ้านจัดสรรที่เปิดใหม่กระจายอยู่ในจังหวัดชลบุรีประมาณร้อยละ 46 และอยู่ในจังหวัดระยองและฉะเชิงเทราอีกจังหวัดละประมาณร้อยละ 27 ของหน่วยที่เปิดใหม่ใน EEC
ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 6,767 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 โดยมีมูลค่า 22,505 ล้านบาท โดยพบว่า เป็นการขายอาคารชุด 2,431 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.3 มีมูลค่า 8,678 ล้านบาท ซึ่งอาคารชุดเกือบทั้งหมดที่ขายได้ใหม่อยู่ในจังหวัดชลบุรีและเป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในช่วง 3 ไตรมาสแรก และเป็นการขายบ้านจัดสรร 4,336 หน่วย ลดลงร้อยละ -15.4 มีมูลค่า 13,826 ล้านบาท
ผลจากที่หน่วยของอาคารชุดเปิดใหม่มากกว่าที่ขายได้ใหม่มากได้ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 EEC 3 จังหวัดมีจำนวนหน่วยอาคารชุดเหลือขาย 18,184 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 มีมูลค่ารวม 66,905 ล้านบาท ขณะที่บ้านจัดสรรที่แม้ว่าจะมียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ยังมีจำนวนหน่วยที่ขายได้มากกว่าหน่วยที่เปิดตัวใหม่มากพอสมควร จึงทำให้มีหน่วยเหลือขาย 26,599 หน่วย ลดลงร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน มีมูลค่า 84,219 ล้านบาท
ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ให้ความเห็นต่อภาพรวมว่า “ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยของ EEC 3 จังหวัด มีการเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างคึกคักขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 และ 3 ปี 2566 โดยประมาณครึ่งหนึ่งของหน่วยเปิดตัวใหม่เป็นอาคารชุดที่ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งโครงการเหล่านี้ได้ดึงยอดขายในพื้นที่ EEC ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีข้อสังเกตว่า โครงการอาคารชุดที่ขายได้ดีมักจะเป็นโครงการที่มีการเปิดตัวภายในไตรมาส หรือไม่เกิน 2 ไตรมาสก่อนหน้า โดยโครงการอาคารชุดหลายโครงการที่เปิดมาก่อนหน้าก็จะยังขายไม่หมดและเป็นหน่วยสะสมในพื้นที่ สำหรับอีกเกือบครึ่งหนึ่งที่เปิดเป็นบ้านจัดสรร กระจายในพื้นที่ 3 จังหวัด พบว่า แม้ตลาดบ้านจัดสรรใน EEC มีหน่วยขายได้ใหม่มากกว่าหน่วยเปิดตัวใหม่ และทำให้มีหน่วยเหลือขายลดลงต่อเนื่อง แต่ยอดขายในช่วง 3 ไตรมาสต่ำกว่าปีก่อนทุกไตรมาส”...
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
PRESS RELEASE อื่นๆ