เศรษฐกิจ-การเมืองฉุดอสังหาเพอร์เฟคพลิกเกมปี69ดันยอดหมื่นล้าน
Loading

เศรษฐกิจ-การเมืองฉุดอสังหาเพอร์เฟคพลิกเกมปี69ดันยอดหมื่นล้าน

วันที่ : 18 พฤศจิกายน 2568
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เปิดเกมรุกปี69 ปรับธุรกิจสู้หลังเศรษฐกิจ-การเมืองฉุดอสังหาฯแผ่วสุดในรอบ 20 ปี ตั้งเป้ายอดขาย 1.1หมื่นล้านดันรายได้ประจำแตะ 30% ภายใน 3 ปี
        
   จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญความท้าทายสูงสุดในรอบ2ทศวรรษ ทั้งอุปทานและอุปสงค์'ลดลง'ต่ำสุดในรอบ 20 ปี ส่งผลให้โครงการเปิดใหม่ลดลงต่อเนื่องคาดว่าปี2568จะมีเพียง 30,000 หน่วย ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่46,000 หน่วย สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง บางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว

   ศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ระบุว่า 2 ปัจจัยหลักคือเศรษฐกิจและการเมืองเป็น 2 ตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่"ชะลอ"ซื้อเพื่อลงทุน โดยการเปลี่ยนผ่านผู้นำทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นโยบายเศรษฐกิจขาดความชัดเจนและต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ประเมินว่าภาพรวมตลาดจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังการเลือกตั้งปีหน้า หากได้รัฐบาลใหม่ที่สามารถเรียกความเชื่อมั่น ประกอบกับมีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จะเป็นกลไกสำคัญต่อการฟื้นตัวและเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

    “อุปทานและอุปสงค์ลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ซื้อจำนวนมากชะลอการตัดสินใจ”

    ควบคุมคุณภาพ เปิดตัวแบบบ้านใหม่ทุกเซกเมนต์

   อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ทางพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังคงเดินหน้าธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ควบคู่กับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2569 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 9,000 ล้านบาท และจากโครงการคอนโดมิเนียมของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออีก 2,000 ล้านบาท

   ถือเป็นเป้าหมายการฟื้นตัวกลับสู่ฐานเดิมของบริษัท แม้ว่าตลาดจะยังอยู่ในภาวะ "หดตัว" บริษัทเชื่อมั่นว่าจะขับเคลื่อนยอดขายได้ตามเป้าหมาย ด้วยประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) ที่ช่วยให้การพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ตลาดได้แม่นยำขึ้น

   ศานิต กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญในปี 2569 บริษัทมุ่งเน้นการยกระดับผลิตภัณฑ์และคุณภาพงานก่อสร้าง โดยเตรียมเปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่ในทุกเซกเมนต์ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ที่ผ่านการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมสถาปนิกทั้งภายในและภายนอกองค์กร

   ทั้งการปรับรูปแบบบ้านและการปรับฟังก์ชั่นภายในให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ควบคู่กับการควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้เข้มข้น โดยพัฒนากระบวนการตรวจสอบให้มีมาตรฐานสูงขึ้น พร้อมปรับปรุงโครงการที่มีอยู่ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบัน

   ปรับสโมสร เป็น Health & Lifestyleเต็มรูปแบบ

   นอกจากนี้ บริษัทได้วางแผนปรับปรุงสโมสรรวม 25 แห่งภายในโครงการต่าง ๆ สู่การเป็น “ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ ” (Health & Lifestyle Club)พื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความสะดวกสบาย อย่างครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกโครงการ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

    ลงทุนธุรกิจสร้างรายได้ประจำ 30% ใน 3 ปี

    นอกจากนี้ บริษัทยังมีการวิเคราะห์โอกาสเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างฐานรากที่แข็งแกร่ง ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความกระชับขึ้น เน้นการสร้างรายได้จากบริษัทร่วมทุนให้เพิ่มขึ้น พร้อมหารายได้เพิ่มจากธุรกิจอื่น โดยขยายโอกาสในธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงในระยะยาว

    ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างวางแผนการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ประจำให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 30% ภายในปี 2571 โดยไม่พึ่งพิงรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแต่เพียงอย่างเดียว

   “การสร้างรายได้ประจำคือหัวใจของการเสริมภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจ เรากำลังมองหาโอกาสลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ