บุษกร ภู่แส กรุงเทพธุรกิจ

    หากย้อน 10 ปีก่อน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังขับเคลื่อนด้วย "คนไทย" ซื้อเพื่ออยู่เอง และ "นักลงทุน" ซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่วันนี้ ภาพเริ่มเปลี่ยน.เพราะผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด ที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ คือ "ชาวต่างชาติ" ที่เข้ามาทำงาน และพำนักอาศัยในเมืองไทย (Expat) สิ่งที่น่าสนใจ แม้จะมีกำลังซื้อสูง แต่พวกเขา "ไม่ซื้อ" เน้น "เช่า"

    ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ LWS บริษัทลูกของเครือ แอล.พี.เอ็น. สำรวจชาวต่างชาติ 446 คน ในกรุงเทพฯ เดือน ม.ค.-เม.ย. 2568 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คือ ชาวญี่ปุ่น สิงคโปร์ อังกฤษ จีน และสหรัฐ คิดเป็นเกือบครึ่งของทั้งหมดช่วงอายุเฉลี่ย 36-45 ปี ซึ่งเป็น วัยทำงานที่มีกำลังซื้อ และเป็นแรงงานระดับ ผู้บริหาร

    "กว่า 67% ของชาวต่างชาติที่ตอบแบบสอบถาม เข้ามาอยู่ในไทยเพื่อทำงานหรือ ทำธุรกิจระยะเวลาอยู่อาศัยเฉลี่ย 5-10 ปี"หมายความ ส่วนใหญ่เข้ามาชั่วคราว และนี่คือเหตุผลแรกที่ "เช่า" คือคำตอบที่ใช่กว่า "ซื้อ"

    3 ทำเลที่ต่างชาติเลือกมากที่สุด

    ผลสำรวจ LWS มี 3 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ต่างชาติเลือกอยู่อาศัยมากที่สุด อันดับแรก "อโศก-พร้อมพงษ์" ย่านนี้คือ "หัวใจสุขุมวิท" เต็มไปด้วยร้านอาหารนานาชาติ คาเฟ่ โรงเรียนอินเตอร์ฯ และศูนย์การค้าดังเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ ต่างชาติที่ทำงานในย่านธุรกิจใจกลางเมืองจะมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส เดินไปทำงานได้ใน 10 นาที

    ตามมาด้วยทำเล "รัชดา-พระราม 9" New CBD ของกรุงเทพฯ มีอาคารสำนักงานเกิดใหม่จำนวนมากเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทเทคโนโลยี สื่อ กลุ่มสตาร์ตอัป ราคาคอนโด จับต้องได้กว่าอโศก-พร้อมพงษ์ และทำเล "สีลม-สาทร" ศูนย์กลางธุรกิจดั้งเดิมของกรุงเทพฯ ที่มีทั้งธนาคาร สำนักงานใหญ่ของบริษัทยักษ์ และสถานทูตจุดเด่นคือความครบของสิ่งอำนวยความสะดวก และการเชื่อมต่อบีทีเอส เอ็มอาร์ที

    ผลสำรวจระบุว่า 54% ของชาวต่างชาติ เลือก "เช่า" 46% เลือก "ซื้อ" กลุ่มที่เช่ามากสุดคือกลุ่มที่เข้ามาทำงานในไทยช่วง 5-10 ปี เพราะมองว่าการเช่ายืดหยุ่นมากกว่า ย้ายที่ทำงานได้ง่าย ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากการถือครองทรัพย์สินในประเทศที่ตนไม่ได้ถือสัญชาติ ส่วนกลุ่มที่ "ซื้อ" คือกลุ่มที่แต่งงานกับคนไทย หรือวางแผนเกษียณอยู่ไทยถาวร

     คอนโด ครองใจต่างชาติ

    61% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกอยู่ "คอนโด" อีก 39% เลือก "บ้านเดี่ยว" เหตุผล เพราะกฎหมายไทยไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินได้ การซื้อคอนโดจึงเป็นทางเลือกเดียวที่ทำได้ง่ายและถูกต้อง อีกทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง มีระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลางครบ และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า

    ชาวต่างชาติที่เลือกซื้อคอนโด นิยมห้องชุดขนาด 30-100 ตร.ม. ราคา 3-10 ล้านบาท หรือเช่าเฉลี่ย 10,000-30,000 บาทต่อเดือน โดยให้ความสำคัญกับห้องที่จัดสรรพื้นที่ชัดเจน มีมุมทำงาน เพราะหลายคนทำงานแบบ Remote มีระเบียงพักผ่อน ส่วนกลางครบ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ พื้นที่สีเขียว น่าสังเกตว่า ต่างชาติส่วนใหญ่ ไม่สนใจโครงการ Pet-Friendly เพราะ ไม่ต้องการภาระดูแลสัตว์เลี้ยง

    "ภูเก็ต-เชียงใหม่-พัทยา" มาแรง

    แม้กรุงเทพฯ จะยังครองอันดับหนึ่ง แต่ LWS พบว่า ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ชาวต่างชาติให้ความสนใจซื้อหรือเช่ารองลงมา โดย ภูเก็ตและพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว ส่วนเชียงใหม่กลายเป็น "เมืองที่สอง" สำหรับ ชาวต่างชาติที่ทำงานรีโมตจากไทย 9% สนใจภูเก็ต 7% เชียงใหม่ 5% พัทยา

    ประพันธ์ศักดิ์ มองว่า เป็นโอกาสของ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ไทย เพราะสิ่งที่ข้อมูลบอกชัดคือ กำลังซื้อในประเทศเริ่มชะลอ แต่กำลังซื้อจากต่างชาติยังโต ดังนั้น ดีเวลลอปเปอร์ อาจต้องปรับแนวคิดจาก "สร้างเพื่อขาย" ไปสู่ "สร้างเพื่อเช่า" หรือจับมือกับนักลงทุนต่างชาติ เปิดดีลร่วมทุนพัฒนาโครงการระยะยาว

    ตลาดเช่าคอนโดสำหรับต่างชาติอาจกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ใหม่ที่จะพยุงตลาดอสังหาฯ ไทยในช่วงที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ฟื้นเต็มที่

    "ต่างชาติเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เทียบผู้บริโภคในประเทศ และมีความต้องการที่ชัดเจนในเรื่องทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวก"

    เมื่อก่อน "คอนโด" ในกรุงเทพฯ คือสินทรัพย์สำหรับคนไทยแต่วันนี้กำลังกลายเป็น สินทรัพย์ระดับภูมิภาคที่ดึงดูดคนทำงานจากทั่วเอเชีย เพราะในสายตาชาวต่างชาติ กรุงเทพฯ คือเมืองที่อยู่สบาย ค่าครองชีพ ไม่สูง อาหารดี มีระบบขนส่งที่พัฒนา มี คุณภาพชีวิตที่ดี เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย

    และนั่นคือเหตุผลว่า.ต่างชาติเลือก "เช่า" มากกว่า "ซื้อ" เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการไม่ใช่ แค่ที่อยู่อาศัยแต่คือ อิสระในการใช้ชีวิต