ปีทอง 'อสังหาฯสมุย' เปิดขายใหม่มากสุดในรอบ 15 ปี
Loading

ปีทอง 'อสังหาฯสมุย' เปิดขายใหม่มากสุดในรอบ 15 ปี

วันที่ : 19 กันยายน 2568
คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ฉายภาพรวมในครึ่งแรกของปี 2568 ตลาดคอนโดบนเกาะสมุยยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ปัจจุบันมี 3 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 876 ยูนิต มูลค่าลงทุนรวม 3,661 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ทำเลหาดเฉวง บ่อผุด หาดละไม
   จังหวัดภาคใต้ยังคงเป็นทำเลทองของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวระดับโลก จึงเป็นแรงส่งต่อตลาดวิลล่าและคอนโดมิเนียมหรูเปิดขายคึกคัก รวมถึง "เกาะสมุย" ที่ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้ความสนใจ โดยเฉพาะตลาดคอนโดและบ้านพักตากอากาศระดับกลางถึงบน ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังการฟ้นตัวของการท่องเที่ยว

   "ภัทรชัย ทวีวงศ์" ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดใหม่ 2-3 โครงการขนาดใหญ่ เปิดตัวบนเกาะสมุยด้วยยูนิตขายรวมกว่า 360 ยูนิต และบ้านพักตากอากาศเปิดขายใหม่มากกว่า 400 ยูนิต โดยเฉพาะบ้านพักตากอากาศคาดว่าปี 2568 จะเป็นปีที่มีอุปทานเปิดขายใหม่สูงสุดในรอบ 15 ปี โดยพื้นที่ยอดนิยมยังคงเป็นบ่อผุด, แม่น้ำ, เฉวง, เชิงมน และละไม เป็นต้น ดังนั้น สมุย จึงไม่ใช่แค่แหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นตลาดลงทุนอสังหาฯที่มีศักยภาพสูงจากนักลงทุนไทยและต่างชาติที่สนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนยุโรป รัสเซีย และจีน ทั้งซื้อไว้พักผ่อน ลงทุนปล่อยเช่า หรือขายต่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว ส่งผลให้ตลาดคอนโดและบ้านพักตากอากาศในสมุยกลายเป็นหนึ่งในแหล่งลงทุนที่น่าสนใจที่สุดของประเทศไทย

   "ปัจจุบันเนื่องจากราคาขายที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับราคาอสังหาฯเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศ คาดว่าความร้อนแรงของตลาดจะยังคงต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป เพราะผู้พัฒนารายใหญ่หลายรายมองเห็นศักยภาพและโอกาสการลงทุนในโครงการใหม่ เช่น ศุภาลัย เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านพักตากอากาศสุดหรู จำนวน 8 ยูนิต บนเกาะสมุย จับกลุ่มนักลงทุนและผู้ต้องการซื้อบ้านพักผ่อนติดชายหาดในทำเลทองของเกาะสมุย ราคาเริ่มต้น 17.59-26.59 ล้านบาท"

   "ภัทรชัย" ฉายภาพรวมในครึ่งแรกของปี 2568 ตลาดคอนโดบนเกาะสมุยยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ปัจจุบันมี 3 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 876 ยูนิต มูลค่าลงทุนรวม 3,661 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ทำเลหาดเฉวง บ่อผุด หาดละไม ยังพบว่ามีเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ 1 โครงการที่บ่อผุด โดยผู้พัฒนาชาวจีน มี 218 ยูนิต ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมาก มียอดขายแล้วกว่า 72.93% และมีกำลังซื้อต่างชาติเหมาซื้อบางอาคาร ทั้งยังมีบางโครงการสามารถขายหมดภายในเวลา 9 เดือนหลังเปิดตัว สะท้อนถึงความร้อนแรงของตลาดและความต้องการที่อยู่อาศัยบนเกาะสมุย

   สำหรับครึ่งหลังคาดว่าอาจมีคอนโดเปิดใหม่อีก 2 โครงการเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ปี 2568 มีคอนโดเปิดขายใหม่ตลอดปี 276 ยูนิต ขณะที่ราคาขายยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงราคา ตร.ม.ละ 60,000-80,000 บาท และบางโครงการมีราคาสูงกว่า 200,000 บาทต่อ ตร.ม. สะท้อนถึงความต้องการและศักยภาพการลงทุนในตลาดที่เติบโต และยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรป รัสเซีย และจีน ซึ่งกำลังซื้อต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดคอนโดเกาะสมุย ยังคงคึกคักและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

   "ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯเกาะสมุยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก และช่วยกระตุ้นให้ตลาดคอนโดเติบโต ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการบ้านพักตากอากาศและนักลงทุนที่มองหากำไรจากการปล่อยเช่า นอกจากตัวเลขยอดขายและราคาที่เพิ่มขึ้นแล้ว เกาะสมุยยังมีเสน่ห์ด้านทำเล ที่ดึงดูดกลุ่ม ผู้ซื้อระดับบน โดยเฉพาะทำเลติดชายหาด ทำให้เกาะสมุยยังเป็นตลาดบลูโอเชี่ยน"

   ขณะที่ภาพรวมตลาดคอนโดบนสมุยครึ่งปีแรก "ภัทรชัย" กล่าวว่า มีอุปทานรวม 876 ยูนิต ขายแล้ว 699 ยูนิต หรือคิดเป็น 79.79% มียูนิตรอขาย 177 ยูนิต หรือ 20.21% ของอุปทานรวม ซึ่งอัตราการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.40% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ซื้อ 10-15% เป็นผู้ซื้อคนไทย เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระและเจ้าของธุรกิจท้องถิ่น ขณะที่ผู้ซื้อต่างชาติคิดเป็น 85-90% ของความต้องการทั้งหมด โดยมากกว่า 50% เป็นนักลงทุนยุโรป รองลงมารัสเซีย อิสราเอล จีน ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังพบอีกว่าเกาะสมุยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับบ้านพักตากอากาศและการลงทุนอสังหาฯระดับบน

   โดยครึ่งปีแรก "ตลาดบ้านพักตากอากาศ" มีอุปทานอยู่ระหว่างการขาย 52 โครงการ รวม 597 ยูนิต มูลค่าลงทุนกว่า 14,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.56% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีก่อน ส่วนใหญ่อยู่ใกล้หาดสำคัญของเกาะ เช่น แม่น้ำ หาดเฉวง-บ่อผุด และหาดละไม ทำให้ดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้ดี โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีบ้านพักตากอากาศเปิดตัวใหม่ถึง 18 โครงการ รวม 179 ยูนิต หลายโครงการสร้างความแตกต่างด้วยรูปแบบยูนิตและขนาดห้อง ส่งผลตลาดวิลล่าบนเกาะสมุยมีสีสันและชีวิตชีวา สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุน แม้เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน โดยราคาขายสูงสุดอยู่ที่ 449 ล้านบาทต่อยูนิต

   "ภัทรชัย" คาดการณ์ว่าในครึ่งหลังของปี 2568 จะมีโครงการบ้านพักตากอากาศใหม่อีกมากกว่า 15 โครงการ หรือกว่า 120 ยูนิต ส่งผลให้ยูนิตใหม่รวมทั้งปีอยู่ที่ 330 ยูนิต สะท้อนถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดบ้านพักตากอากาศเกาะสมุย ที่น่าสนใจคือมีบ้านพักตากอากาศที่เสนอขายแบบลีสโฮลด์บางแห่งขายยกโครงการ 46 ยูนิต ภายในเวลา 2 เดือน หลังเปิดขาย ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพ ความร้อนแรงของตลาด และความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรป รัสเซีย และจีน ที่ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ทำให้เกาะสมุยเป็นทำเลลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม

   "ช่วงครึ่งปีแรกอัตราการขายบ้านพักตากอากาศเกาะสมุยแตกต่างกันไปตามทำเล โดยหาดเฉวง-บ่อผุด มียอดขายสูงสุด 67.91% หาดละไมอยู่ที่ 48.79% และพื้นที่แม่น้ำอยู่ที่ 36.26% เป็นการตอกย้ำว่าทำเลเหล่านี้ยังเป็นที่ต้องการและมีศักยภาพในการลงทุนสูง ขณะที่กลุ่มลูกค้ากว่า 90% เป็นต่างชาติ ทั้งออสเตรเลีย ยุโรป อิสราเอล แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส ขณะที่กำลังซื้อคนไทย รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระและเจ้าของธุรกิจท้องถิ่น มีประมาณ 10% สะท้อนเกาะสมุยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางระดับนานาชาติ ทั้งเพื่อการพักผ่อนและการลงทุนอสังหาฯ ส่งผลตลาดบ้านพักตากอากาศยังคงมีโอกาสเติบโตสูง" ภัทรชัยกล่าวย้ำ

   สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาที่ดิน "ภัทรชัย" ระบุว่า ราคายังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจุบันราคาที่ดินติดทะเลปลายแหลมบ่อผุด ราคาไร่ละ 50 ล้านบาท ติดทะเลตลิ่งงามราคาไร่ละ 18 ล้านบาท ติดหาดแม่น้ำ ราคาไร่ละ 52.17 ล้านบาท ที่ดินบนเขาในอ่างทอง ราคาไร่ละ 3.7 ล้านบาท ที่ดินบนเขาในตลิ่งงาม ราคาไร่ละ 8.6 ล้านบาท และที่ดินหน้าเมือง ราคาไร่ละ 6.6 ล้านบาท

ทั้งนี้ ด้วยตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ทำให้ ปีนี้เป็นปีทองของ "เกาะสมุย"


 
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ