ชงนายกฯอนุมัติงบ1.15แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ

    นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กระทรวงการคลัง มีข้อเสนอแนะหลังการรับฟังรายงานเศรษฐกิจของ ธปท. และกนง. 4 เรื่องดังนี้ 1.ให้มีการสอดประสานกัน ระหว่างนโยบายการเงินและการคลังมากขึ้น 2.การดำเนินการเรื่องของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปให้อยู่ในกรอบในช่วง 1-3% 3.การดูแลและพิจารณาอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสม และ 4.ให้ดูแลเรื่องสินเชื่อและสภาพคล่อง ให้มีการปล่อยสินเชื่อเข้าไปในระบบมากกว่านี้

   "ข้อเสนอของคลังในครั้งนี้ ไม่ได้มีความหมายว่าอยากให้ใครทำอะไร อยากให้ในภาพใหญ่ทั้งคลังและธปท.มีมาตรการที่สอดคล้องกัน ส่วนเรื่องสินเชื่อ ก็เป็น การส่งสัญญาณในภาวะที่เศรษฐกิจมีความท้าทายมากขึ้น สถาบันการเงินก็เข้มงวดขึ้น ถ้าไม่รีบคุยกับแบงก์ แบงก์ก็อาจจะจำกัดการปล่อยสินเชื่อโดยอัตโนมัติ"

    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า จากที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเป็นประธาน ได้มีการพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาทครบถ้วนแล้ว โดยตั้งกรอบและเกณฑ์อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่า กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ไม่ซ้ำซ้อน

   "เตรียมเสนอของบประมาณ 1.15 แสนล้านบาท เขาสู่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่จะประชุมวันที่ 18 มิ.ย.2568 ก่อนนำกลับเข้าสู่ การประชุมครม.ต่อไป"

   นายจุลพันธ์กล่าวว่า สำหรับโครงการที่มีลักษณะซ้ำซ้อน หรือต่ำกว่า 500,000 บาท และใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างแบบพิเศษได้ถูกตัดออกแล้วทั้งหมด โดยยืนยันว่า ทุกโครงการที่เหลือต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง เพื่อป้องกันการรั่วไหล และสร้างความโปร่งใส เชื่อว่ากรอบเวลา 3 เดือน ยังสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทัน