ธอส.ปล่อยกู้ใหม่พุ่ง 8 หมื่นล้าน มั่นใจทั้งปีแตะเป้า 2.4 แสนล้าน
วันที่ : 4 มิถุนายน 2568
ธอส. ปล่อยกู้ใหม่ทะลุ 8 หมื่นล้าน ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 40% มั่นใจปี 68 ปล่อยสินเชื่อแตะเป้า 2.4 แสนล้าน พร้อมกด NPL เหลือ 5% ต่ำกว่าปี 67 เดินหน้า สู่ธนาคารเพื่อความยั่งยืน
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ควบคู่บทบาทกลไกภาครัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลอด 71 ปี ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว ล่าสุดปล่อยสินเชื่อใหม่สะสมแล้วกว่า 80,000 ล้านบาท ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 30.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 35% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 241,780 ล้านบาท พร้อมครองแชมป์สินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้วยส่วนแบ่งตลาด (Market Share) 42.8% ในไตรมาส 1 ปีนี้ แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวและเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในบางพื้นที่ แต่ยอดการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม ธอส.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตัวเลขสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกสะท้อนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองต่อเนื่อง และเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและหลากหลาย โดยมั่นใจว่า ทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย 2.41 แสนล้านบาท
สำหรับ ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ ได้แก่ การออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตอบโจทย์ลูกค้า, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท และ การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ธอส. ยังจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ในปี 2568 หลังจากได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงการคลัง ซึ่ง ธอส. ได้จัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปี 2568 ได้แก่
1. Premier Home
• สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป
• วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท
• ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 1.79% ต่อปี
• ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี พร้อมฟรีค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท
2. DC3 – มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
• กลุ่มลูกค้า SM ที่กู้เงินกับธนาคารไม่น้อยกว่า 1 ปี
• ดอกเบี้ย 0% ช่วง 6 เดือนแรก ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท/เดือน
• เดือนที่ 7-12 ปรับตามอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได
3. สินเชื่อซ่อม-แต่ง และซ่อม-แต่ง Plus
• วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท
• สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่มีวินัยการผ่อนดี
• วงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 300,000 บาท
• ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.00% – 3.50% ต่อปี
4. Pre Finance Premium
• สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ใน 27 จังหวัดที่มีศักยภาพ
• วงเงินกู้เพื่อซื้อที่ดิน ก่อสร้าง และพัฒนาสาธารณูปโภค
• ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 4.30% ต่อปี
นอกจากนี้ ธอส.มีแนวทางในการดำเนินงานในอนาคตตามยุทธศาสตร์ มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bank) ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย เช่น
• “บ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย” ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.50% ผ่อนเริ่มต้น 4,600 บาท/เดือน
• “Aging Home” สำหรับผู้กู้อายุ 50 ปีขึ้นไปที่สามารถกู้ร่วมกับบุตรได้ ระยะเวลากู้รวมสูงสุด 70 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 10 ปีที่ 4.25%
• “Reverse Mortgage” สำหรับผู้มีอายุ 60-80 ปี นำบ้านที่ปลอดภาระจำนองมาเป็นหลักประกันเพื่อรับเงินงวดรายเดือน วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ตลอดอายุสัญญา
ธอส. จะยังคงยืนหยัดเป็นเครื่องมือของรัฐในการช่วยให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนในอนาคต
นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธอส. ระบุว่า ธนาคารมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้ที่ 240,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนแรกของปี ปล่อยได้แล้วประมาณ 30% จากยอดรวม ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มสินเชื่อซ่อมแซมจะมีการใช้วงเงินเต็มภายในปีนี้ ขณะที่กลุ่มผู้สูงวัยจะมีการใช้วงเงินประมาณ 20–30% ของกรอบที่ตั้งไว้
ธนาคารมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้ที่ 240,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกปล่อยได้แล้วประมาณ 30% จากยอดรวม กลุ่มสินเชื่อซ่อมแซมและผู้สูงวัยคาดใช้วงเงินเต็มตามกรอบที่ตั้งไว้
ขณะที่การบริหารความเสี่ยง ธอส. ยังดำเนินการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อย่างเข้มข้น โดยปี 2567 ปรับลดลงจาก 6% เหลือ 4.95% และปี 2568 ตั้งเป้ารักษาระดับไว้ที่ 5.13% ต่ำกว่า ปี 2567 พร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ เช่น มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาทใน 6 เดือนแรก
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังเดินหน้าโครงการ “สู้ เรา ช่วย” โดยมีลูกค้ากว่า 330,000 ราย และมีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 22% โดย ธอส. ได้ปรับลดดอกเบี้ยก่อนมติคณะรัฐมนตรี (ครม. )เพื่อลดภาระประชาชน และคาดว่าทิศทางดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 2568 จะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอาจลดเพิ่มเติมตามภาวะเศรษฐกิจ
ตัวเลขสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกสะท้อนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองต่อเนื่อง และเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและหลากหลาย โดยมั่นใจว่า ทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย 2.41 แสนล้านบาท
สำหรับ ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ ได้แก่ การออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตอบโจทย์ลูกค้า, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 7 ล้านบาท และ การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ธอส. ยังจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ในปี 2568 หลังจากได้รับมอบนโยบายจากกระทรวงการคลัง ซึ่ง ธอส. ได้จัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปี 2568 ได้แก่
1. Premier Home
• สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป
• วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท
• ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 1.79% ต่อปี
• ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี พร้อมฟรีค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท
2. DC3 – มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
• กลุ่มลูกค้า SM ที่กู้เงินกับธนาคารไม่น้อยกว่า 1 ปี
• ดอกเบี้ย 0% ช่วง 6 เดือนแรก ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท/เดือน
• เดือนที่ 7-12 ปรับตามอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได
3. สินเชื่อซ่อม-แต่ง และซ่อม-แต่ง Plus
• วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท
• สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่มีวินัยการผ่อนดี
• วงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 300,000 บาท
• ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.00% – 3.50% ต่อปี
4. Pre Finance Premium
• สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ใน 27 จังหวัดที่มีศักยภาพ
• วงเงินกู้เพื่อซื้อที่ดิน ก่อสร้าง และพัฒนาสาธารณูปโภค
• ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 4.30% ต่อปี
นอกจากนี้ ธอส.มีแนวทางในการดำเนินงานในอนาคตตามยุทธศาสตร์ มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bank) ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย เช่น
• “บ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย” ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.50% ผ่อนเริ่มต้น 4,600 บาท/เดือน
• “Aging Home” สำหรับผู้กู้อายุ 50 ปีขึ้นไปที่สามารถกู้ร่วมกับบุตรได้ ระยะเวลากู้รวมสูงสุด 70 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 10 ปีที่ 4.25%
• “Reverse Mortgage” สำหรับผู้มีอายุ 60-80 ปี นำบ้านที่ปลอดภาระจำนองมาเป็นหลักประกันเพื่อรับเงินงวดรายเดือน วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ตลอดอายุสัญญา
ธอส. จะยังคงยืนหยัดเป็นเครื่องมือของรัฐในการช่วยให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืนในอนาคต
นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธอส. ระบุว่า ธนาคารมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้ที่ 240,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนแรกของปี ปล่อยได้แล้วประมาณ 30% จากยอดรวม ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มสินเชื่อซ่อมแซมจะมีการใช้วงเงินเต็มภายในปีนี้ ขณะที่กลุ่มผู้สูงวัยจะมีการใช้วงเงินประมาณ 20–30% ของกรอบที่ตั้งไว้
ธนาคารมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้ที่ 240,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกปล่อยได้แล้วประมาณ 30% จากยอดรวม กลุ่มสินเชื่อซ่อมแซมและผู้สูงวัยคาดใช้วงเงินเต็มตามกรอบที่ตั้งไว้
ขณะที่การบริหารความเสี่ยง ธอส. ยังดำเนินการควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อย่างเข้มข้น โดยปี 2567 ปรับลดลงจาก 6% เหลือ 4.95% และปี 2568 ตั้งเป้ารักษาระดับไว้ที่ 5.13% ต่ำกว่า ปี 2567 พร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ เช่น มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ (DC3) ผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาทใน 6 เดือนแรก
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังเดินหน้าโครงการ “สู้ เรา ช่วย” โดยมีลูกค้ากว่า 330,000 ราย และมีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 22% โดย ธอส. ได้ปรับลดดอกเบี้ยก่อนมติคณะรัฐมนตรี (ครม. )เพื่อลดภาระประชาชน และคาดว่าทิศทางดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 2568 จะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอาจลดเพิ่มเติมตามภาวะเศรษฐกิจ
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ