ตลาด 'บ้านมือสอง' โตแซง 'บ้านใหม่'
Loading

ตลาด 'บ้านมือสอง' โตแซง 'บ้านใหม่'

วันที่ : 9 พฤษภาคม 2568
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีบ้านว่างในตลาดประมาณ 1.4 ล้านหลัง เป็นบ้านมือหนึ่ง 4 แสนหลัง บ้านมือสอง 8-9 แสนหลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์ NPA จากธนาคารและกรมบังคับคดี ซึ่งตลาดบ้านมือสองเติบโตมากในปัจจุบัน หลังมีมาตรการลดค่าโอนและจำนอง 0.01% ทำให้ลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายจาก 1.4 แสนบาท เหลือ 700 บาท
   ชี้ทำเลดี-ราคาถูก-แบงก์ปล่อยกู้ง่าย นายหน้า-มนุษย์เงินเดือนแห่ซื้อลงทุน

   อานิสงส์บ้านใหม่ชะลอตัวยาว มาตรการลดค่าโอนและจำนอง 0.01% ดันตลาด'บ้านมือสอง'โตสนั่น 30% เกิดธุรกิจเอสเอ็มอีอสังหาฯ นายหน้า สถาปนิก หมอ วิศวะ พนักงานประจำ แห่ซื้อลงทุนรีโนเวต ฟันกำไร 10-15% สร้างรายได้เสริม เผย กทม. สมุทรปราการ ชลบุรี นนท์ อีอีซี ทำเลฮอต

   นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เรียลเอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดอสังหาฯหดตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น คือธุรกิจเอสเอ็มอี อสังหาฯมือสอง เป็นการร่วมกันระหว่างนายหน้าและสถาปนิกที่ซื้อบ้านมือสองจากกรมบังคับคดีมาลงทุนรีโนเวตใหม่ขายต่อ ได้กำไร 10-15% ต่อหลัง สูงกว่าบ้านใหม่ที่ได้กำไรหลักเดียว สะท้อนจากยอดโอนปี 2567 มีจำนวน 347,799 หน่วย พบว่าเป็นการโอนบ้านมือสอง 62% หรือ 217,072 หน่วย สูงกว่าบ้านใหม่ซึ่งอยู่ที่ 38% หรือ 130,727 หน่วย ทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯยังสามารถขับเคลื่อนได้โดยบ้านมือสอง เพราะตลาดบ้านใหม่ชะลอตัวและมีแนวโน้มจะหดตัวอีก จึงมีโอกาสจะเห็นผู้ประกอบการอสังหาฯเข้าไปทำธุรกิจบ้านมือสองเป็นทางเลือกของการทำธุรกิจ นอกเหนือจากรัดเข็มขัด ปรับแผนพัฒนาโครงการขนาดเล็กและแนวราบ ไฮเอนด์ ทั้งนี้ด้วยสต๊อกคงค้างในตลาดกว่า 2 แสนหน่วย คาดว่ากว่าจะระบายหมดคงใช้เวลา 4 ปี

   "คนนิยมซื้อบ้านมือสอง เพราะทำเลอยู่ในเมือง ราคาดึงดูดใจมากกว่าบ้านใหม่ 15-20% ขณะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ผ่อนต่อไม่ไหว ก็ยอมถูกยึด ทำให้บ้านมือสองไหลเข้ากรมบังคับคดีตลอดเวลา ทำให้นายหน้าและสถาปนิกเห็นช่องทางทำธุรกิจ ทางสถาพรเองก็กำลังศึกษาธุรกิจบ้านมือสองเช่นกัน เพราะแนวโน้มตลาดเติบโตค่อนข้างดี ยังมีแผนจะรุกโมเดลเช่าเพื่อซื้อมากขึ้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถกู้และซื้อบ้านได้ หลังผลตอบรับที่โครงการทาวน์โฮมวัชรพลค่อนข้างดี" นายสุนทรกล่าว

   นายประวิทย์ อนุศิริ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีบ้านว่างในตลาดประมาณ 1.4 ล้านหลัง เป็นบ้านมือหนึ่ง 4 แสนหลัง บ้านมือสอง 8-9 แสนหลัง คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์ NPA จากธนาคารและกรมบังคับคดี ซึ่งตลาดบ้านมือสองเติบโตมากในปัจจุบัน หลังมีมาตรการลดค่าโอนและจำนอง 0.01% ทำให้ลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายจาก 1.4 แสนบาท เหลือ 700 บาท ประกอบกับมีนักลงทุนรายย่อย ซื้อบ้านมือสองไปรีโนเวตขายสร้างรายได้กันมาก ทั้งกลุ่มนายหน้า กลุ่มคนชั้นกลาง และพนักงานประจำที่ทำเป็นอาชีพเสริม เช่น นายแพทย์ วิศวะ สถาปนิก เป็นต้น การที่บ้านมือสองเป็นที่นิยม เนื่องจากอยู่ทำเลที่สะดวก ราคาต่อรองได้ ไม่มีเงินดาวน์ และธนาคารปล่อยกู้ง่ายกว่าบ้านใหม่ เนื่องจากเป็นทรัพย์ลูกค้าธนาคารอยู่แล้ว โดยปีนี้คาดตลาดจะเติบโตจากปีก่อนหน้า 30% ทำเลที่เติบโตมากที่สุดคือ กรุงเทพฯ รองลงมา สมุทรปราการ ชลบุรี และนนทบุรี รวมถึงพื้นที่อีอีซี ที่มีขายโรงงานและโกดังให้เช่ากันจำนวนมาก

   "จากตลาดที่ขยายตัวขึ้น มีต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจบ้านมือสองในไทยมากขึ้น ซึ่งมี 3-4 บริษัทที่เป็นรายใหญ่ ลงทุนเป็นระดับ 1,000 ล้านบาท จากญี่ปุ่นและยุโรป ส่วนจากจีนก็มีบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นระดับ กลาง-ล่าง" นายประวิทย์กล่าว
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ