อสังหาฯปี68สัญญาณดีมาก ยอดซื้อ-ขาย "มหกรรมบ้านฯ" พุ่ง1.2หมื่นล.
วันที่ : 26 มีนาคม 2568
สัญาญาณดีเวอร์..!! อสังหาฯ ปี 68 ผู้บริโภคตอบรับดีเกินคาดการณ์ หลัง ธปท.ปรับเกณฑ์ LTV ชั่วคราวนาน 1 ปี กระทรวงคลังจ่อคลอดมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ล่าสุดสามสมาคมอสังหาฯ เผยผลสรุปงานมหกรรมบ้าน และคอนโด ครั้งที่ 47 ปิดฉากอย่างสวยงาม ยอดซื้อ-ขายทำสถิติใหม่ทะลุ 12,000 ล้านบาท คาดยอดขายและยอดโอนต่อเนื่องงานมหกรรมบ้านฯ เพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าสองเท่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าการจัดงานมหกรรมบ้านและ คอนโด 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าตลาดอสังหาฯปีนี้จะฟื้นหรือล่วงให้จับตาดูการซื้อ-ขาย ที่อยู่อาศัยในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 เป็นดัชนีชี้วัด หากมีคนเข้ามาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยน้อยก็จะท้อนถึงทิศทางตลาดว่าปี 68 นี้ตลาดจะซบยาว แต่หากมีคนมาเดินเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเยอะมียอดขายดีก็จะสะท้อนให้ถึงทิศทางตลาดปีนี้ว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้แน่นอน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และเร่งรัดการตัดสินใจลูกค้า รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น 3 สมาคมอสังหาฯยังได้เรียกร้องให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการลดค่า ธรรเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนองให้เหลือ 0.01% รวมถึงได้เรียกให้ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) ผ่อนปรนมาตรการ LTV เพื่อช่วยให้ลลุ่มลูกค้าบ้านหลังที่ 2 ขึ้นไปซื้อที่อยู่อาศัยระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ธปท.ได้ประกาศผ่อนปรนเกณฑ์ LTV เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งทำให้งานมหกรรมบ้านมีความคึกคักมากขึ้น นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนองซึ่ง คาดว่าจะประกาศออกมาก่อนสิ้นไตรมาส1
ล่าสุด ดร.ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต รองเลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดปีนี้ ได้ทำลายทุกสถิติ ทั้งยอดเข้าชมพุ่งทะลุเป้า ตลาดคึกคักเกินคาด โดยเริ่มต้นด้วยยอดลงทะเบียนล่วงหน้าทะลุ 10,000 คน ก่อนเปิดงาน ซึ่งเทียบเท่ากับการจัดงานช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลอด 4 วันของการจัดงาน ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นถึง 30% สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
"จากข้อมูลจากการจัดงานพบว่า คอนโดฯ ยังครองแชมป์ บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์มาแรง คอนโดมิเนียมยังคงเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในงานนี้ คิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 25% ทาวน์เฮาส์ 10% และอีก 5% เป็นบ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ยังคงให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
เจาะพฤติกรรมผู้ซื้อ สะท้อนเทรนด์ อสังหาฯ ยุคใหม่
สำหรับการกระจายตัวของผู้เข้าชมงานบ่งชี้ถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวครอบคลุมทุกช่วงวัย โดยกลุ่มอายุ 30-45 ปี เป็นสัดส่วนหลักถึง 40% ตามมาด้วยกลุ่ม 25-30 ปี 30%, 45-50 ปี 20%, และ 50 ปีขึ้นไป 5 -10% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบ้านและคอนโดมิเนียมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มอายุ
โดยปัจจัยความสำเร็จ ที่ผลักดัน ยอดจองในงาน ไม่ได้มาจากเพียงแค่ดีมานด์ในตลาด แต่ยังได้ รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้ง มาตรการ LTV และนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ ตลอดจนโปรโมชันพิเศษและดีลสุดพิเศษจากผู้พัฒนาอสังหาฯที่ร่วมงาน ทำให้เกิดยอดจองทะลุ 12,000 ล้านบาท โดยมาจากผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ รายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ที่มาร่วมออกบูทในงาน และคาดว่าหลังจบงาน จะมียอดขายและยอดโอนเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าสองเท่า
"การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงที่อยู่อาศัย แต่เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยให้คนไทยมีบ้านในฝัน และเป็น แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคง" ดร.ดลพิวัฒน์ กล่าว
จับตาตลาดปลายปีมีทั้งโอกาสและความท้าทาย
ดร.ดลพิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 2568 ยังคงเผชิญปัจจัยท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนก่อสร้างและราคาวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องปรับตัวและสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้โดดเด่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป
"เตรียมพบกับมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ปลายปีนี้! สำหรับ มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค.-วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. 2568 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์"
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และเร่งรัดการตัดสินใจลูกค้า รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น 3 สมาคมอสังหาฯยังได้เรียกร้องให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการลดค่า ธรรเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนองให้เหลือ 0.01% รวมถึงได้เรียกให้ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) ผ่อนปรนมาตรการ LTV เพื่อช่วยให้ลลุ่มลูกค้าบ้านหลังที่ 2 ขึ้นไปซื้อที่อยู่อาศัยระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ธปท.ได้ประกาศผ่อนปรนเกณฑ์ LTV เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งทำให้งานมหกรรมบ้านมีความคึกคักมากขึ้น นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนองซึ่ง คาดว่าจะประกาศออกมาก่อนสิ้นไตรมาส1
ล่าสุด ดร.ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต รองเลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดปีนี้ ได้ทำลายทุกสถิติ ทั้งยอดเข้าชมพุ่งทะลุเป้า ตลาดคึกคักเกินคาด โดยเริ่มต้นด้วยยอดลงทะเบียนล่วงหน้าทะลุ 10,000 คน ก่อนเปิดงาน ซึ่งเทียบเท่ากับการจัดงานช่วงปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลอด 4 วันของการจัดงาน ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นถึง 30% สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
"จากข้อมูลจากการจัดงานพบว่า คอนโดฯ ยังครองแชมป์ บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์มาแรง คอนโดมิเนียมยังคงเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในงานนี้ คิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 25% ทาวน์เฮาส์ 10% และอีก 5% เป็นบ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ยังคงให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางสะดวกและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
เจาะพฤติกรรมผู้ซื้อ สะท้อนเทรนด์ อสังหาฯ ยุคใหม่
สำหรับการกระจายตัวของผู้เข้าชมงานบ่งชี้ถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวครอบคลุมทุกช่วงวัย โดยกลุ่มอายุ 30-45 ปี เป็นสัดส่วนหลักถึง 40% ตามมาด้วยกลุ่ม 25-30 ปี 30%, 45-50 ปี 20%, และ 50 ปีขึ้นไป 5 -10% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบ้านและคอนโดมิเนียมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มอายุ
โดยปัจจัยความสำเร็จ ที่ผลักดัน ยอดจองในงาน ไม่ได้มาจากเพียงแค่ดีมานด์ในตลาด แต่ยังได้ รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้ง มาตรการ LTV และนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ ตลอดจนโปรโมชันพิเศษและดีลสุดพิเศษจากผู้พัฒนาอสังหาฯที่ร่วมงาน ทำให้เกิดยอดจองทะลุ 12,000 ล้านบาท โดยมาจากผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ รายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ที่มาร่วมออกบูทในงาน และคาดว่าหลังจบงาน จะมียอดขายและยอดโอนเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าสองเท่า
"การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงที่อยู่อาศัย แต่เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยให้คนไทยมีบ้านในฝัน และเป็น แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคง" ดร.ดลพิวัฒน์ กล่าว
จับตาตลาดปลายปีมีทั้งโอกาสและความท้าทาย
ดร.ดลพิวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี 2568 ยังคงเผชิญปัจจัยท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนก่อสร้างและราคาวัสดุที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องปรับตัวและสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้โดดเด่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป
"เตรียมพบกับมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ปลายปีนี้! สำหรับ มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค.-วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. 2568 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ