เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง ชู Green & Well Living 2025 ดันพอร์ตแนวราบ เปิดใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท วางเป้ายอดขายพุ่ง 4,000 ล้านบาท
Loading

เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง ชู Green & Well Living 2025 ดันพอร์ตแนวราบ เปิดใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท วางเป้ายอดขายพุ่ง 4,000 ล้านบาท

วันที่ : 11 กุมภาพันธ์ 2568
เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง ตั้งเป้าการสร้างมูลค่าเพิ่มสู่ทุกครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านเพื่อมาตอบโจทย์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยเทรนด์ใหม่ ปี2568 ชู Green & Well Living ทุกโครงการแบรนด์ เอ็น.ซี ดึงคอนเซ็ปต์ GAIA (ไกอา ความสมดุลของธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางมุมพักผ่อนเชื่อมธรรมชาติได้อย่างมีมิติ)
    นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศยังคงอยู่ในสภาวะค่อยฟื้นตัว มีปัจจัยกระทบ Global Supply Disruption แต่คาดว่าคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี ดีมานด์ความต้องการบ้านแนวราบจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น การใช้แนวทางช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อบ้านปี 2568 และมีความหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะกลับมาดีขึ้น มีการดูดซับในตลาดมากขึ้นเมื่อผู้ซื้อบ้านมีความมั่นใจ ด้วยปัจจัยหลายด้าน ส่งผลผู้ประกอบการอสังหาฯ จำเป็นต้องทบทวน ปรับแผนธุรกิจให้สอดรับกับกำลังซื้อในตลาด และ หามาตรการทางการตลาดที่เหมาะสม

   สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 เอ็น.ซี ตั้งเป้าการสร้างมูลค่าเพิ่มสู่ทุกครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านเพื่อมาตอบโจทย์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยเทรนด์ใหม่ ปี2568 ชู Green & Well Living ทุกโครงการแบรนด์ เอ็น.ซี ดึงคอนเซ็ปต์ GAIA (ไกอา ความสมดุลของธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางมุมพักผ่อนเชื่อมธรรมชาติได้อย่างมีมิติ ) มุมพื้นที่เพิ่มขีดความสุข เปิดรับธรรมชาติสู่ความสมดุลของการอยู่อาศัย บนพื้นที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ที่ไร้ขีดจำกัด ควบคู่การดูแลสุขภาพกาย และใจ เอ็น.ซี พร้อมเนรมิต พื้นที่ทวีความสุข ร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกครอบครัว ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ด้วยระดับราคาสัดส่วนที่มากขึ้น 3-7 ล้านบาท ผนวกกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีสินค้าคงเหลือขายในระดับที่เพียงพอ ในปี 2568 และเพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่เพิ่ม อีก 5 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อรวมกับโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จำนวนโครงการที่ดำเนินการในปี 2568 จะมีทั้งหมด 19 โครงการ มูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ เอ็น.ซี ให้ความสำคัญความเป็นบ้านที่เชื่อมโยงด้านสิ่งแวดล้อม และห่วงใยดูแลสุขภาพ ซึ่งให้ความสำคัญกลยทธ์หลัก 3 เมกะเทรนด์ ด้วยกัน

    1. 1. กลยุทธ์ด้าน Green Product พัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค ด้วย Green & Well Living ตอบรับการอยู่อาศัยที่มี การออกแบบโดยใช้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด ด้วยรูปแบบดีไซน์ดึงธรรมชาติเข้ามาใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัยในบ้าน แนวคิด GAIA ศูนย์กลางพื้นที่ความสุขในบ้าน ผ่านการทำ Research จากกลุ่มลูกค้าฐานใหญ่ มาพร้อมกับฟังก์ชั่นดีไซน์ ที่เติมเต็มความสุขให้กับพื้นที่พักผ่อนภายในบ้าน ที่ดึงธรรมชาตินอกบ้านเข้าสู่ตัวบ้าน ให้มีความใกล้ชิดมากขึ้น เสมือนปอดสีเขียวท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมวิวพาโนรามารีสอร์ท 360 องศา เป็นเสน่ห์ดีไซน์ สร้างแรงบันดาลใจ ที่ทุกครอบครัวชื่นชอบ พร้อมสร้างสรรค์การอยู่อาศัยเติมความสุขทุกพื้นที่ให้มากกว่า เป็นแนวคิดตอบโจทย์ความสุข ช่วงเวลาดีดี ที่ได้พักผ่อนในบ้าน

   2. 2. กลยุทธ์ Green Finance ยกระดับสร้างประสบการณ์ Customer Experience ที่เหนือกว่า จากพันธมิตรที่ดี มีการ Collaboration ร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สิ่งพิเศษกับลูกค้า ด้วยการดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบด้วยเงื่อนไขที่ดี สำหรับการซื้อบ้าน พร้อมข้อมูล ที่เอื้อประโยชน์สูงสุด ให้กับผู้ซื้อบ้านผ่านTouch Point ด้วยนวัตกรรมการบริการ ตอบรับทุกความต้องการ ได้อย่างตรงใจผู้ซื้อบ้านสูงสุด ลูกค้าพึงพอใจ ถือเป็นการเพิ่มความรู้การซื้อบ้าน ที่มาพร้อมโซลูชั่นการบริการที่เหนือกว่า

   3.กลยุทธ์ Green Service ให้ความสำคัญ Customer Centric ผ่าน New Product New Design มีการพัฒนาจากความต้องการของผู้ซื้อบ้านอย่างตรงใจ ด้วย Multi Function ผนวกการดูแล Residents Centric เพื่อส่งเสริมการอยู่อาศัยในต้นแบบชุมชน ที่ใส่ใจ ห่วงใย บริหารจัดการอย่างดีเยี่ยม เพิ่มมูลค่าปัจจัยสนับสนุนให้ทุกครอบครัว Value Added มีคุณภาพการอยู่อาศัยในการได้รับบริการ ให้กับ ทุกครอบครัว สอดคล้องกับนโยบายหลักให้ความสำคัญกับลูกบ้านเอ็น.ซี รู้จักบ้าน รู้ใจคุณ ( Home Expert Living Care ) สู่ปีที่ 31 เดินหน้าพัฒนาเคียงคู่ กับลูกค้า ตามคอนเซ็ปต์หลักของ แบรนด์ เอ็น.ซี ตอบรับความเชื่อมั่น ให้กับผู้ซื้อบ้าน

   นายสมนึก กล่าวเสริม มีความมั่นใจในการทำยอดขาย ปี 2568 ให้ได้ถึง 4,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท พร้อมเสริมทัพด้านพันธกิจ ESG ยังคงเดินหน้าเพิ่มชูศักยภาพในการทำการตลาด ที่ตรงใจ ผู้ซื้อบ้าน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าฐานใหม่ และรักษาฐานเก่าลูกค้า สร้างประสบการณ์ในด้านที่อยู่อาศัยให้กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ และต่อยอดการทำการตลาดการขายฐานใหญ่ ลูกบ้านเดิม รวมถึงมั่นใจว่า จะสามารถก้าวผ่านความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2568 มั่นใจสามารถบริหารการขายทั้ง 19 โครงการ มูลค่า 15,500 ล้านบาท ได้อย่างตอบโจทย์ความต้องของผู้ซื้อบ้านแบรนด์ สู่การพัฒนาเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ