แสนสิริบุกหนักลงทุนภูเก็ต
วันที่ : 30 พฤศจิกายน 2567
แสนสิริ เปิดเผยว่า ส่วนทิศทางธุรกิจของแสนสิริ ปี 2568 สำหรับบ้านแนวราบยังคงมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวโคงการระดับกลางและบน ขณะที่คอนโดมิเนียมจะเน้นไปที่ตลาดใหญ่คือ 3 ล้านบาท รวมถึงจะมุ่งการทำตลาดภูเก็ตมากขึ้น ตลอดจนขอนแก่น พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ด้วยเช่นกัน
ตั้งเป้า5ปีเปิด27โครงการ2.5หมื่นล.
ส่วนทิศทางธุรกิจของแสนสิริ ปี 2568 สำหรับบ้านแนวราบยังคงมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวโคงการระดับกลางและบน ขณะที่คอนโดมิเนียมจะเน้นไปที่ตลาดใหญ่คือ 3 ล้านบาท รวมถึงจะมุ่งการทำตลาดภูเก็ตมากขึ้น ตลอดจนขอนแก่น พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะล่าสุดบริษัทได้เข้าไปตั้งสำนักงานสาขาแห่งที่ 2 ที่จ.ภูเก็ต โดยลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัว เดอะโซไซตี้ (The Society) พื้นที่พบปะ หรือโซเชี่ยล สเปซ ใจกลางย่านเชิงทะเล-บางเทา จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่างและสำนักงานขาย สำหรับรองรับลูกค้าแบบไพรเวต ของ 2 โครงการใหม่
ขณะเดียวกันธุรกิจของแสนสิริ ในจ.ภูเก็ต สร้างยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ โดยในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายจากภูเก็ต 2,000 ล้านบาท และปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท และในปีถัดๆ ไปยอดขายจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น
"แสนสิริได้เข้าไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมากว่า 13 ปี ล่าสุดเปิดโครงการทั้งสิ้น 27 โครงการหรือคิดเป็นยูนิต สะสม 8,300 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 26,590 ล้านบาท เนื่องจากเห็นศักยภาพในทุกด้านของภูเก็ต และการเข้ามาของแสนสิริในภูเก็ต ครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าแสนสิริจะอยู่ระยะยาว และทำให้ล่าสุดได้ปรับเป้าหมายเพิ่มโครงการใหม่เฉพาะในภูเก็ต เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยแผน 5 ปี เปิดโครงการทั้งหมด 27 โครงการ รวมมูลค่ารวม และมียอดขายสะสม 5 ปี 25,000 ล้านบาท"
อย่างไรก็ดี ไม่เพียงที่ภูเก็ตแต่บริษัทยังสนใจที่จะขยายการ ลงทุนในจ.พังงา และกระบี่ด้วย แต่ทั้งนี้ ต้องดูความชัดเจนของสนามบินอันดามัน จ.พังงา ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะถ้า สนามบินนี้เกิดขึ้นได้จะรองรับการขยายตัวของ 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่
แสนสิริเพิ่มน้ำหนักลงทุนภูเก็ต ตั้งเป้า 5 ปี เปิด 27 โครงการใหม่กว่า 2.5 หมื่นล้าน-ชี้หากสนามบินอันดามันเป็นรูปธรรมพร้อมขยายตลาดสู่พังงา-กระบี่
นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2568 ยังคงไปในทิศทางเดียวกันการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ซึ่งปีนี้คาดว่าจีดีพีจะอยู่ที่ 2.7% ส่วนปีหน้า 3% แต่ยังมีปัจจัยลบทั้งเรื่องหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอยู่ระหว่าง แก้ปัญหานี้อยู่ ขณะที่ภาคการส่งออกก็ยังไม่มั่นใจว่าท่าทีของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ต่อนโยบาย การค้ากับต่างประเทศจะเป็นอย่างไร แต่มองว่าสัมพันธภาพระหว่างสหรัฐกับไทยค่อนข้างดี ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วภาพรวมการส่งออกของไทยก็ไม่น่าจะติดลบ ขณะเดียวกันการท่องเที่ยว ก็ดีด้วยส่วนทิศทางธุรกิจของแสนสิริ ปี 2568 สำหรับบ้านแนวราบยังคงมุ่งเน้นไปที่การเปิดตัวโคงการระดับกลางและบน ขณะที่คอนโดมิเนียมจะเน้นไปที่ตลาดใหญ่คือ 3 ล้านบาท รวมถึงจะมุ่งการทำตลาดภูเก็ตมากขึ้น ตลอดจนขอนแก่น พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะล่าสุดบริษัทได้เข้าไปตั้งสำนักงานสาขาแห่งที่ 2 ที่จ.ภูเก็ต โดยลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัว เดอะโซไซตี้ (The Society) พื้นที่พบปะ หรือโซเชี่ยล สเปซ ใจกลางย่านเชิงทะเล-บางเทา จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่างและสำนักงานขาย สำหรับรองรับลูกค้าแบบไพรเวต ของ 2 โครงการใหม่
ขณะเดียวกันธุรกิจของแสนสิริ ในจ.ภูเก็ต สร้างยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ โดยในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายจากภูเก็ต 2,000 ล้านบาท และปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท และในปีถัดๆ ไปยอดขายจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น
"แสนสิริได้เข้าไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมากว่า 13 ปี ล่าสุดเปิดโครงการทั้งสิ้น 27 โครงการหรือคิดเป็นยูนิต สะสม 8,300 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 26,590 ล้านบาท เนื่องจากเห็นศักยภาพในทุกด้านของภูเก็ต และการเข้ามาของแสนสิริในภูเก็ต ครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าแสนสิริจะอยู่ระยะยาว และทำให้ล่าสุดได้ปรับเป้าหมายเพิ่มโครงการใหม่เฉพาะในภูเก็ต เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยแผน 5 ปี เปิดโครงการทั้งหมด 27 โครงการ รวมมูลค่ารวม และมียอดขายสะสม 5 ปี 25,000 ล้านบาท"
อย่างไรก็ดี ไม่เพียงที่ภูเก็ตแต่บริษัทยังสนใจที่จะขยายการ ลงทุนในจ.พังงา และกระบี่ด้วย แต่ทั้งนี้ ต้องดูความชัดเจนของสนามบินอันดามัน จ.พังงา ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะถ้า สนามบินนี้เกิดขึ้นได้จะรองรับการขยายตัวของ 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ