"ภูเก็ต" ขาขึ้น! ดันจังหวัดข้างเคียงชายฝั่งอันดามันบูม
วันที่ : 23 พฤศจิกายน 2567
ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตปี 2567 ร้อนแรง เติบโตสวนทางเศรษฐกิจ โอนและเช่าอสังหาฯ รวมมูลค่ากว่า 55,000 ล้านบาท จับตาความต้องการวิลล่าหรูพุ่งสูง ราคาที่ดินทำเลลายัน-บางเทาเพิ่มขึ้น 30-40% ส่งผลถึงศักยภาพจังหวัดข้างเคียงชายฝั่งอันดามัน
ภูเก็ตยังคงเป็นศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง หลังจากปี 2567 มูลค่าการโอนและเช่าทั้งหมดทะลุ 55,000 ล้านบาท โดยมาจากตลาดวิลล่าหรูและคอนโดมิเนียมชั้นนำที่มีความต้องการสูง ทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งผลักดันโดยกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นในวิลล่าหรู ส่งผลให้ราคาอสังหาฯ ในทำเลสำคัญอย่างลายันและบางเทาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินในพื้นที่นี้ขยับตัวขึ้นถึง 30-40%
นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ผู้พัฒนาอสังหารายใหญ่ในท้องถิ่น กล่าวว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตได้รับความนิยมสูงจากลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรปตะวันออกที่มองหาที่อยู่อาศัยระดับหรู ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและธรรมชาติ การเพิ่มขึ้นของยอดโอนและการเช่าในภูเก็ตสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดนี้
การเติบโตในปีนี้ยังได้รับการขับเคลื่อนจากนักลงทุนรายใหม่ในประเทศที่หันมาลงทุนในอสังหา ริมทรัพย์ภูเก็ตมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวิลล่าหรูที่มีราคาสูงระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งมีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับสูงที่มองหาบ้านพักตากอากาศ
สำหรับตลาดเช่าระยะยาวยังคงเติบโต ด้วยการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติที่มองหาความสะดวกสบายในการเช่าอสังหาฯ ระยะยาว โดยการเช่าในปี 2567 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท นอกจากนี้โครงการอสังหาฯ ระดับลักชัวรี เช่น โครงการวิลล่าและคอนโดหรูย่านชายหาดก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติในพื้นที่ แม้ต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาวัสดุและต้นทุนการขนส่ง แต่ภูเก็ตยังคงเป็นทำเลทองที่มีความต้องการสูง ด้วยพื้นที่จำกัดและทำเลที่ตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียมอย่างชัดเจน
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าการเติบโตนี้มีทั้งในกลุ่มบ้านระดับลักชัวรีและตลาดกลางถึงล่าง โดยในปี 2566 ภูเก็ตมียอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดกว่า 8,000 ยูนิต และในปี 2567 คาดว่าจะมีการโอนในจำนวนยูนิตที่ใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือมูลค่าที่พุ่งสูงขึ้นถึง 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการระดับลักชัวรีที่มีราคาสูงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป กลายเป็นระดับราคาปกติที่พบเจอและเป็นที่ต้องการสูงในตลาด ขณะเดียวกัน หลังเกิดวิกฤตโควิด-19 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่องเที่ยวทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านจัดสรรที่มีราคากลางล่าง ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการรายย่อย SME และกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่เข้ามาทำงานในจังหวัด
ด้าน นายโฮ กวง ปิง ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บันยันกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงศักยภาพของตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตในระยะยาวว่า แม้ภูเก็ตจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ศักยภาพของภูเก็ตไม่ได้จำกัดแค่ในจังหวัดเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปยังจังหวัดรอบข้างในภูมิภาคชายฝั่งอันดามัน ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น
"ภูเก็ตมีการเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในอนาคตพื้นที่รอบๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันอย่างจังหวัดพังงา กระบี่ และตรัง ก็จะเป็นโอกาสใหญ่ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าในอนาคตตลาดเหล่านี้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาที่มองหาโครงการพัฒนาอสังหาฯ ที่มีความยั่งยืนในระยะยาว"
นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ผู้พัฒนาอสังหารายใหญ่ในท้องถิ่น กล่าวว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตได้รับความนิยมสูงจากลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรปตะวันออกที่มองหาที่อยู่อาศัยระดับหรู ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและธรรมชาติ การเพิ่มขึ้นของยอดโอนและการเช่าในภูเก็ตสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งในตลาดนี้
การเติบโตในปีนี้ยังได้รับการขับเคลื่อนจากนักลงทุนรายใหม่ในประเทศที่หันมาลงทุนในอสังหา ริมทรัพย์ภูเก็ตมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวิลล่าหรูที่มีราคาสูงระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งมีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับสูงที่มองหาบ้านพักตากอากาศ
สำหรับตลาดเช่าระยะยาวยังคงเติบโต ด้วยการเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติที่มองหาความสะดวกสบายในการเช่าอสังหาฯ ระยะยาว โดยการเช่าในปี 2567 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท นอกจากนี้โครงการอสังหาฯ ระดับลักชัวรี เช่น โครงการวิลล่าและคอนโดหรูย่านชายหาดก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติในพื้นที่ แม้ต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นจากราคาวัสดุและต้นทุนการขนส่ง แต่ภูเก็ตยังคงเป็นทำเลทองที่มีความต้องการสูง ด้วยพื้นที่จำกัดและทำเลที่ตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียมอย่างชัดเจน
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าการเติบโตนี้มีทั้งในกลุ่มบ้านระดับลักชัวรีและตลาดกลางถึงล่าง โดยในปี 2566 ภูเก็ตมียอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดกว่า 8,000 ยูนิต และในปี 2567 คาดว่าจะมีการโอนในจำนวนยูนิตที่ใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือมูลค่าที่พุ่งสูงขึ้นถึง 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการระดับลักชัวรีที่มีราคาสูงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป กลายเป็นระดับราคาปกติที่พบเจอและเป็นที่ต้องการสูงในตลาด ขณะเดียวกัน หลังเกิดวิกฤตโควิด-19 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่องเที่ยวทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านจัดสรรที่มีราคากลางล่าง ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการรายย่อย SME และกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยที่เข้ามาทำงานในจังหวัด
ด้าน นายโฮ กวง ปิง ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บันยันกรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงศักยภาพของตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตในระยะยาวว่า แม้ภูเก็ตจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ศักยภาพของภูเก็ตไม่ได้จำกัดแค่ในจังหวัดเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปยังจังหวัดรอบข้างในภูมิภาคชายฝั่งอันดามัน ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น
"ภูเก็ตมีการเติบโตและประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในอนาคตพื้นที่รอบๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันอย่างจังหวัดพังงา กระบี่ และตรัง ก็จะเป็นโอกาสใหญ่ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าในอนาคตตลาดเหล่านี้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาที่มองหาโครงการพัฒนาอสังหาฯ ที่มีความยั่งยืนในระยะยาว"
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ