ตปท.แห่ซื้ออสังหาฯภูเก็ต แอสเซทไวส์ส่ง 4โครงการสู้
วันที่ : 29 ตุลาคม 2567
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยว่า ลูกค้าสิงคโปร์จะเป็นกลุ่มที่ซื้อคอนโดฯเฉลี่ยราคาต่อยูนิตแพงที่สุด คือ 30-40 ล้านบาท ทั้งที่อยู่อาศัยเอง และเพื่อลงทุน นอกจากนี้ก็จะเป็น รัสเซีย และยุโรป
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล เลขาธิการและอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต กลับมาฟื้นแล้วในระดับหนึ่งตามเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่การท่องเที่ยวได้กลับมาขยายตัวได้อีก ทั้งในส่วนของ บ้านเดี่ยว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีอัตราการเติบโตกว่า 30-35% ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักคือชาวต่างชาติ ทั้ง รัสเซีย ยุโรป จีน และ คนไทยที่เข้ามาทำงานในภูเก็ต คาดว่าทั้งปีนี้จะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอาจจะใกล้เคียงกับก่อนที่จะเกิดโควิด
"ลูกค้าสิงคโปร์จะเป็นกลุ่มที่ซื้อคอนโดฯเฉลี่ยราคาต่อยูนิตแพงที่สุด คือ 30-40 ล้านบาท ทั้งที่อยู่อาศัยเอง และเพื่อลงทุน นอกจากนี้ก็จะเป็น รัสเซีย และยุโรป ส่วนที่เป็นวิลล่าหลังละ 10 ล้านบาทขึ้นไปขายได้เช่นกัน และที่แพงที่สุดเป็นบ้านราคาหลังละ 3,000 ล้านบาทก็มีต่างชาติเป็นเจ้าของ"
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะที่ผ่านมาราคาที่ดินหลายแห่ง ได้ปรับสูงขึ้นกว่าเท่าตัว อีกทั้งต้นทุนในการก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน วัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ก็ยังสามารถขายได้เพราะฝั่งยุโรปมีเหตุการณ์หลายอย่างทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวต้องการมีบ้านในพื้นที่ปลอดภัย และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ขณะเดียวกันมองว่าหากจีนเริ่มกลับเข้ามาได้อีกครั้ง ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดจะไม่เพียงพอรองรับปริมาณการซื้อได้อย่างแน่นอน
ในกรณีที่ภาครัฐได้พิจารณาให้ต่างชาติ ถือครองสิทธิ 99 ปี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยลดปัญหานอมินีได้แน่นอน ที่ผ่านมา ที่ไม่สามารถทำได้เช่นนั้นเพราะกฎหมายไม่เอื้อ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอส เซทไวส์ กล่าวว่า ร่มโพธิ์ พร็อตเพอร์ตี้ บริษัทในเครือของ แอสเซทไวส์ ได้เปิด 4 โครงการภายใต้แบรนด์ เดอะไทเทิล ในภูเก็ตมูลค่า 15,500 ล้านบาท มีแบล็กล็อกกว่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าต่างชาติ ภาพรวม 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.) มูลค่า 14,578 ล้านบาท เป็นสัดส่วนจากเดอะไทเทิล 43%
"ลูกค้าสิงคโปร์จะเป็นกลุ่มที่ซื้อคอนโดฯเฉลี่ยราคาต่อยูนิตแพงที่สุด คือ 30-40 ล้านบาท ทั้งที่อยู่อาศัยเอง และเพื่อลงทุน นอกจากนี้ก็จะเป็น รัสเซีย และยุโรป ส่วนที่เป็นวิลล่าหลังละ 10 ล้านบาทขึ้นไปขายได้เช่นกัน และที่แพงที่สุดเป็นบ้านราคาหลังละ 3,000 ล้านบาทก็มีต่างชาติเป็นเจ้าของ"
ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะที่ผ่านมาราคาที่ดินหลายแห่ง ได้ปรับสูงขึ้นกว่าเท่าตัว อีกทั้งต้นทุนในการก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน วัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ก็ยังสามารถขายได้เพราะฝั่งยุโรปมีเหตุการณ์หลายอย่างทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวต้องการมีบ้านในพื้นที่ปลอดภัย และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ขณะเดียวกันมองว่าหากจีนเริ่มกลับเข้ามาได้อีกครั้ง ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดจะไม่เพียงพอรองรับปริมาณการซื้อได้อย่างแน่นอน
ในกรณีที่ภาครัฐได้พิจารณาให้ต่างชาติ ถือครองสิทธิ 99 ปี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยลดปัญหานอมินีได้แน่นอน ที่ผ่านมา ที่ไม่สามารถทำได้เช่นนั้นเพราะกฎหมายไม่เอื้อ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอส เซทไวส์ กล่าวว่า ร่มโพธิ์ พร็อตเพอร์ตี้ บริษัทในเครือของ แอสเซทไวส์ ได้เปิด 4 โครงการภายใต้แบรนด์ เดอะไทเทิล ในภูเก็ตมูลค่า 15,500 ล้านบาท มีแบล็กล็อกกว่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าต่างชาติ ภาพรวม 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.) มูลค่า 14,578 ล้านบาท เป็นสัดส่วนจากเดอะไทเทิล 43%
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ