นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครึ่งแรก 2567 คงมีการพัฒนาใหม่เข้าสู่ ตลาดต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าลงทุนกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 18 โครงการ 5,000 ยูนิต มูลค่า 32,000 ล้านบาท วิลล่า 60 โครงการ 1,000 ยูนิต มูลค่า 30,000 ล้านบาท คาดทั้งปีนี้มีมูลค่าลงทุนถึง 1.2 แสนล้านบาท เทียบกับปี 2566 โตกว่า 20% แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 9,000-10,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท ราคา 120,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร และวิลล่า 1,400 ยูนิต มูลค่า 50,000-60,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 30-50 ล้านบาทต่อยูนิต หากรวมโครงการบ้านจัดสรรด้วย คาดว่าลงทุนในภูเก็ตสูงถึง 140,000 ล้านบาท

         "อสังหาฯภูเก็ต ขับเคลื่อนทั้งรายใหญ่จากกรุงเทพฯและในท้องถิ่น ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลบางเทา เชิงทะเล ป่าตอง ราไวย์ ครึ่งปีแรก เป็นรายเดิมจากกรุงเทพฯ เช่น ออริจิ้น แอสเซทไวส์ เอ็มบีเค เป็นต้น ส่วนในท้องถิ่น เช่น กลุ่มโบทานิก้า กลุ่มบันยันทรี ครึ่งปีหลัง มีแสนสิริ เปิดตัวคอนโดและวิลล่า ออริจิ้น มีโครงการที่ป่าตอง ศรีพันวา เตรียมเปิดใหม่วิลล่าเชิงทะเล เป็นต้น" นายภัทรชัยกล่าว

         นายภัทรชัยกล่าวว่า สำหรับราคาที่ดินในภูเก็ต ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี โดยขึ้นอยู่กับทำเล ราคาสูงสุดอยู่ที่ป่าตอง หากติดหาดเฉลี่ย 300 ล้านบาทต่อไร่ เนื่องจากในอนาคตจะมีการปลดล็อกผังเมืองรวมให้สามารถพัฒนาตึกสูงได้ ส่วนพื้นที่อื่นๆ เช่น บางเทา เชิงทะเล ที่ดินติดหาดอยู่ที่ 150 ล้านบาทต่อไร่ขึ้นไป ถ้าที่ดินอยู่เชิงเขา 30-60 ล้านบาทต่อไร่ เป็นต้น ช่วงปี 2566-2567 เป็นยุคทองของอสังหาฯภูเก็ต ดูจากการลงทุนมีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านบาท และมีซัพพลายใหม่มาก โดยคอนโด อยู่ที่ 20,000 ยูนิต วิลล่ากว่า 2,500 ยูนิต ต้องใช้เวลาในดูดซับตั้งแต่ปี 2568-70 เป็นช่วงตลาดปรับฐาน