DRT ปักธงมาร์จิ้นแตะ27% ลุยตลาดเอเยนต์ต่อยอด
Loading

DRT ปักธงมาร์จิ้นแตะ27% ลุยตลาดเอเยนต์ต่อยอด

วันที่ : 13 มิถุนายน 2567
DRT เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะชะลอตัวลงตามตลาดอสังหาริมทรัพย์จากเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตไม่เต็มศักยภาพ และมีปัจจัยลบจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง
         
        DRT วางเป้ารักษามาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 25-27% และรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรให้ได้ตามแผน รับแผนกลยุทธ์เชิงรุกลุยตลาดเอเยนต์และลูกค้าโครงการ อสังหาในภูมิภาค และตลาดต่างประเทศ เพิ่มเติม ดันแผนการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและตอกย้ำการเป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น

        นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะชะลอตัวลงตามตลาดอสังหาริมทรัพย์จากเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตไม่เต็มศักยภาพ และมีปัจจัยลบจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง สถาบันการเงินปฏิเสธการให้สินเชื่อแก่ผู้ซื้อบ้าน ส่งผลให้ภาพรวมยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีแรกคาดว่ามีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้บริษัท ต้องปรับตัวเพื่อบริหารความเสี่ยงเพื่อผลักดันแผนการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและตอกย้ำการเป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น

         ขยายฐานลูกค้าโครงการ

         ทั้งนี้ บริษัทจะนำศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านสินค้าที่มีความหลากหลายภายใต้แบรนด์ "ตราเพชร" ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับการทำกิจกรรมทางการตลาด และความพร้อมด้านฐานการผลิตหลังขยายกำลังการผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและโครงทรัสต์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าผ่านช่องทางขายทั้ง 4 ช่องทาง

         โดยจะเร่งทำตลาดผ่านการนำเสนอสินค้าคู่บริการในรูปแบบ Solution และสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่หันมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย รวมถึงการขยายฐานลูกค้าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น เพื่อเพิ่มปริมาณการขายสินค้าในระหว่างที่รอ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ กลับมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

         เจาะตลาดใน-นอก

         ขณะเดียวกัน DRT จะเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะเร่งขยายตลาดใน สปป.ลาว เวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีศักยภาพเติบโตและมีความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างตามการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยในเวียดนามนั้น บริษัทได้ขยายตลาดจากเมืองโฮจิมินห์ไปยังเมืองดานัง ขณะที่ช่องทางขายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ เชื่อว่าจะยังเติบโตได้ตามการเปิดสาขาใหม่ๆ ของลูกค้า

         "ช่วงครึ่งปีแรกเป็นความท้าทายที่ต้องบริหารจัดการเพื่อเอาชนะปัจจัยลบ ซึ่งเรามีความพร้อมด้านสินค้าและแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ช่องทางขายครอบคลุมและฐานการผลิตที่ต้องการรักษาอัตราการใช้เครื่องจักรให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้สามารถบริหารความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดไม่เอื้อ และสร้างโอกาสการขายสินค้าให้มากขึ้นในช่วงที่ตลาดฟื้นตัว โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่ 25-27%" นายสาธิต กล่าว

         สำหรับรายได้รวมไตรมาสแรกปีนี้ ทำได้ 1,486.94 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ประกอบการชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อระบายสต๊อกที่อยู่อาศัยพร้อมขายจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น อย่างไรก็ตามช่องทางจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ มีอัตราการเติบโตที่ดีตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายจากตลาดต่างประเทศที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีจากตลาดหลักทั้งในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และฟิลิปปินส์


 
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ