อสังหาฯไตรมาสแรกสินเชื่อใหม่ร่วง20.5%
Loading

อสังหาฯไตรมาสแรกสินเชื่อใหม่ร่วง20.5%

วันที่ : 17 พฤษภาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1/2567 พบการชะลอตัวอย่างมากด้านอุปสงค์ ทั้งจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศลดลง -13.8% จำนวนเงินสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ขยายตัวลดลง -20.5% ต่ำสุดในรอบ 25 ไตรมาส เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
         นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1/2567 พบการชะลอตัวอย่างมากด้านอุปสงค์ ทั้งจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศลดลง -13.8% จำนวนเงินสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ขยายตัวลดลง -20.5% ต่ำสุดในรอบ 25 ไตรมาส เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อุปทานที่เกิดขึ้นใหม่ชะลอตัวลงทั้งใบอนุญาตจัดสรร ทั่วประเทศลดลง -19.7% การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยทั่วประเทศลดลง -12% ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ลดลง -38.5% แต่หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์คาดจะส่งผลดีครึ่งปีหลัง โดยตลาดจะมีการพลิกฟ้นไม่น้อยกว่า 5% และสูงสุดได้มากกว่า 10% คาดทั้งปีจะมีหน่วยโอน 386,861 หน่วย เพิ่มขึ้น 5.5% มูลค่า 1,105,912 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% เป็นแนวราบ 277,118 หน่วย เพิ่มขึ้น 7.1% มูลค่า 795,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% ห้องชุด 109,743 หน่วย เพิ่มขึ้น 1.5% มูลค่า 310,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% มีมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ทั่วประเทศ 698,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลคงค้าง ทั่วประเทศ 5,191,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9%

          "หากขอกู้เงินจากสถาบันการเงินได้มากอาจทำผลกระทบตลาดลดลง โดยตลาดอสังหาฯยังคงมีปัจจัยลบจากมาตรการแอลทีวีและหนี้ครัวเรือน ทำให้แบงก์เข้มปล่อยกู้ และยังฉุดยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ไตรมาสแรกเพียง 121,529 ล้านบาท" นายวิชัยกล่าว

         นายวิชัยกล่าวว่า สถานการณ์การโอนห้องชุดของคน ต่างชาติในไตรมาสแรกมีจำนวน 3,938 หน่วย เพิ่มขึ้น 4.3% มูลค่า 18,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% มีข้อสังเกตว่าเป็นไตรมาสที่มีจำนวนหน่วยโอนมากที่สุดในรอบ 25 ไตรมาส (Q1/2561-Q1/2567) สำหรับสัญชาติที่มีจำนวนหน่วยและมูลค่าโอนมากสุดคือ สัญชาติจีน 1,596 หน่วย คิดเป็น 41% มูลค่า 7,570 ล้านบาท คิดเป็น 42% ของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่เป็นต่างชาติทั้งหมด สัญชาติพม่า 392 หน่วย คิดเป็น 10% มีมูลค่า 2,207 ล้านบาท คิดเป็น 12% และสัญชาติรัสเซีย 295 หน่วย คิดเป็น 7% มีมูลค่า 924 ล้านบาท คิดเป็น 5%

         "ตลาดที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะห้องชุดที่มียอดการซื้อจากชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นและต่อเนื่องในภาวะที่กำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอ สะท้อนโอกาสต้องดึงกำลังซื้อใหม่ๆ ให้เข้ามากระตุ้น ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในช่วงสั้นๆ จำเป็นต้องเกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน" นายวิชัยกล่าว