ส่งสัญญาณราคาห้องชุดขยับ
Loading

ส่งสัญญาณราคาห้องชุดขยับ

วันที่ : 13 เมษายน 2567
ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ไตรมาส 1 ปีนี้ เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวสูง สะท้อนราคาห้องชุดเริ่มปรับตัวสูงขึ้น มาจากต้นทุนที่ดิน วัสดุก่อสร้าง และค่าแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น
         รับต้นทุนที่ดิน-วัสดุก่อสร้าง-ค่าแรงพุ่ง

        นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ (REIC) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาภาพรวมห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2567 พบว่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 155.0 จุด เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 0.5% สะท้อนถึงราคาห้องชุดเริ่มปรับตัวสูงขึ้น โดยมีปัจจัยหลักมาจากต้นทุนที่ดิน วัสดุก่อสร้าง และค่าแรงงานที่ เพิ่มสูงขึ้น

        ขณะที่ห้องชุดเหลือขายในตลาดที่ยังเป็นห้องชุดจากโครงการเดิม ซึ่งประกาศขายในราคาต้นทุนเดิม ได้ถูกดูดซับจากตลาดไปพอสมควรแล้ว จึงส่งผลให้ดัชนีราคาห้องชุดใหม่มีทิศทางที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 157.7 จุด เพิ่มขึ้น 0.01% โดยมี ข้อสังเกตว่าเริ่มมีทิศทางที่ปรับตัวขึ้นแต่ไม่มากนัก เป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามต้นทุนค่าก่อสร้างใหม่ ซึ่งปัจจัยหลักมาจากราคาที่ดินเปล่า และต้นทุนค่าแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้น

        สำหรับโซนที่ปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ โซนห้วยขวาง-จตุจักรดินแดง ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท รองลงมาคือ โซนธนบุรี ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท และโซนบางซื่อ-ดุสิต ในระดับราคา 5.01 -7.00 ล้านบาท

        ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล พบว่าค่าดัชนีเท่ากับ 143.2 จุด เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าราคาห้องชุดมีทิศทางที่เริ่มปรับไปในทางขาขึ้น โดยโซนที่ปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท รองลงมาคือ โซนบางพลี-บางบ่อบางเสาธง อยู่ในระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท

        แต่อย่างไรก็ตามสำหรับห้องชุดที่เหลือขายในตลาดที่ยังเป็นห้องชุดจากโครงการเดิมของผู้ประกอบการ ซึ่งสร้างขึ้นในราคาต้นทุนเดิมได้ถูกดูดซับจากตลาดไปพอสมควรแล้ว จึงส่งผลให้ดัชนีราคาห้องชุดใหม่จะมีทิศทางที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น

        "จากสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว และมีปัจจัยลบหลายด้าน โดยเฉพาะการยกเลิกมาตรการผ่อนปรน LTV ส่งผล กระทบต่อยอดขายโดยตรง ผู้ประกอบจึงใช้กลยุทธ์ส่งเสริม การขายโครงการอาคารชุดในไตรมาส 1 ปี 2567 ด้วยการให้เป็นส่วนลดเงินสด และให้ของแถม เพื่อกระตุ้นยอดขายเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 71.3%"