ภูเก็ต ตลาดแตกรับท่องเที่ยวบูมโครงการบ้าน - คอนโดใหม่พุ่ง1,087%
Loading

ภูเก็ต ตลาดแตกรับท่องเที่ยวบูมโครงการบ้าน - คอนโดใหม่พุ่ง1,087%

วันที่ : 22 มีนาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปรับตัวดีขึ้นได้รับอานิสงส์การท่องเที่ยว โดยภูเก็ตฟื้นตัวเร็วแรงที่สุดทั้งอุปสงค์และอุปทานในทุกประเภท คาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2567

   นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปรับตัวดีขึ้นได้รับอานิสงส์การท่องเที่ยว โดยภูเก็ตฟื้นตัวเร็วแรงที่สุดทั้งอุปสงค์และอุปทานในทุกประเภท คาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2567 ส่วนสงขลาฟื้นตัวดีอำเภอหาดใหญ่ตามการท่องเที่ยว ขณะที่สุราษฎร์ธานีฟื้นตัวพื้นที่เกาะสมุยจากการขายอาคารชุด วิลล่า ส่วนนครศรีธรรมราชฟ้นตัวต่ำสุด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องดูแต่ละพื้นที่ก่อนพัฒนาโครงการใหม่ ไม่ให้เกิดอุปทานมากเกินไปในบางพื้นที่

    นายวิชัยกล่าวว่า ครึ่งหลังปี 2566 ทั้ง 4 จังหวัด มีหน่วยพร้อมขาย 23,026 หน่วย 134,016 ล้านบาท เป็นอาคารชุด 11,136 หน่วย 79,648 ล้านบาท บ้านจัดสรร 11,890 หน่วย 54,368 ล้านบาท มีโครงการใหม่ 7,086 หน่วย 56,155 ล้านบาท ขายได้ใหม่ 6,332 หน่วย 36,004 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 16,694 หน่วย 98,012 ล้านบาท คาดการณ์ปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ 10,586 หน่วย 69,253 ล้านบาท มีหน่วยขายใหม่ 9,187 หน่วย 47,865 ล้านบาท และเหลือขาย 18,092 หน่วย 107,906 ล้านบาท

    นายวิชัยกล่าวว่า โดย 5 ทำเลเหลือขายมากสุด ได้แก่ หาดบางเทาหาดสุรินทร์ เทพกระษัตรี-ศรีสุนทร ประดู่-บางชุมโถ ท่าข้าม-ควนหิน และเกาะแก้ว-รัษฎา มากสุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท 5,338 หน่วย 22,627 ล้านบาท ซึ่งภูเก็ตมีหน่วยเสนอขาย 12,869 หน่วย 91,519 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 3,020 หน่วย 15,817 ล้านบาท อาคารชุด 9,849 หน่วย 75,701 ล้านบาท เปิดใหม่ 5,913 หน่วย เพิ่มขึ้น 1,087.3% มูลค่า 48,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,361.3% เหลือขาย 8,505 หน่วย เพิ่มขึ้น 48.5% มูลค่า 63,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.1% คาดปี 2567 มีเปิดใหม่ 7,071 หน่วย 53,293 ล้านบาท เหลือขาย 9,539 หน่วย 71,857 ล้านบาท