อสังหาฯภูธร จี้ปลดล็อกLTV-แก้ดบ.แพง ชงรัฐจัดโซนนิ่งต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร
Loading

อสังหาฯภูธร จี้ปลดล็อกLTV-แก้ดบ.แพง ชงรัฐจัดโซนนิ่งต่างชาติซื้อบ้านจัดสรร

วันที่ : 15 มีนาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ภาพรวม ภาคตะวันตก หัวหิน จุดทำเลที่คนให้ความสนใจ คอนโดฯเปิดแล้ว ขายได้ บ้านแม้ซัปพลายเหลือเยอะ แต่ก็ขายได้ ในโซนหัวหิน ในส่วนของเพชรบุรี คอนโดฯยังมีปัญหา สร้างเสร็จและเหลือขาย ยังเหลือเยอะ
         นายจตุพล พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช เอ็ม พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการแนวราบในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก (กาญจนบุรี, ราชบุรี และหัวหิน และมีแลนด์แบงก์จำนวน) กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยว่า แต่ละจังหวัดการแข่งขันสูง ซึ่งโครงการของบริษัทเป็นบ้านพร้อมอยู่ จะสะท้อนกำลังที่แท้จริง ซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าเก็งกำไร ซึ่งจะเห็นถึงความสามารถที่จะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ดี เนื่องจากระดับราคาบ้านที่พัฒนาจะอยู่ในกลุ่มที่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

       "ลูกค้าเรา เจอเรื่องแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อสูงมากราว 50% ได้ เพราะเจอเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูง รายได้ไม่พอกับหนี้สิน ลูกค้าบางรายรายได้เหลือไม่ถึง 1,000 บาทต่อเดือน บางรายติดแบล็กลิสต์ จากสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง ทำให้ต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้น มีผลต่อราคาบ้าน ผู้รับเหมาก็หายาก ซึ่งบริษัทมีการใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปมาช่วย เพื่อลดต้นทุนแรงงาน"

        นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้คนทั่วไป ไม่คิดอยากซื้อบ้าน เพราะซื้อช่วงนี้จะเสียดอกเบี้ยที่แพง ทำให้ผู้ซื้อรอดูทิศทางอัจราดอกเบี้ย และเรื่องของอนาคต เนื่องจากธนาคารมีกฎเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น เพราะเป็นห่วงเรื่องหนี้เสียที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยเชิงลบที่ส่งผล กระทบต่อตลาดอสังหาฯ คือ นโยบายภาครัฐไม่ชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่มีอะไรมากระตุ้น การลงทุนจากภาครัฐไม่มีแผนออกมา และงบประมาณประจำปี 2567 ที่ยังไม่ออก ยิ่งทำให้เงินในภาคธุรกิจฝืดหมด

         สำหรับปัจจัยเชิงบวกนั้น พบว่า หัวเมืองใหญ่ในเมืองท่องเที่ยว เช่น หัวหิน มีชาวต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่คนจีน ซึ่งทาง บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างโครงการบ้านสำหรับชาวต่างชาติในหัวหินโดยเฉพาะ ส่วนคอนโดฯเราสู้ทางแสนสิริไม่ได้ เรื่องมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ ก็เป็นนโยบายของภาครัฐช่วยอยู่ โครงการทางด่วนมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ส่งผลดีต่อการเติบโต ซึ่งทางบริษัทมีที่ดินสะสมอยู่โซนเส้นทางลงของมอเตอร์เวย์ ประมาณ 200 ไร่ ในแผนจะพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร

        ทางรอด ต้องกระจายการลงทุน

         ในเรื่องการปรับตัวผู้ประกอบการในปี 67 นั้น นายจตุพล กล่าวว่า ปีนี้ เป็นปีโหดร้ายของผู้ประกอบการ สุดๆ เพราะรีเจกต์สูง ยอดขายไม่ได้เร็วเหมือนปีก่อน ดังนั้นแนวทางที่ควรดำเนินการ ได้แก่

       1. ต้องกระจายการลงทุนในหลากหลายพื้นที่ ในจังหวัดศักยภาพ เช่น ชลบุรี ในพัทยา ภูเก็ต เพื่อเจาะลูกค้าต่างชาติ ไม่เน้นคนไทยเพียงกลุ่มเดียว 2. เพิ่มการลงทุนอสังหาฯ ที่หลากหลาย มากกว่าคอนโดฯหรือบ้านจัดสรร เช่น นำที่ดินสะสมมาพัฒนาโรงแรม หรือคลังสินค้าเพื่อลดความเสี่ยง 3. ลดขนาดโครงการให้เล็กลง ประหยัดค่าใช้จ่าย จากเดิมโครงการมีเนื้อที่ 20-30 ไร่ ซึ่งจะมีต้นทุนการทำถนน และสาธารณูปโภคสูงทำให้เงินจม 4.โฟกัสบ้านในกลุ่มอื่น เช่น บ้านพรีเมียม โดยได้ลงทุนพัฒนาบ้านระดับ 40-50 ล้านบาท ทำเลหลังศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเนื้อที่ 2ไร่ คาดว่ากลางปี 67 จะเปิดการขายได้ และ 5.การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น

       "หากรัฐบาลพิจารณาออกโครงการบ้านหลังแรกก็ดี ดอกเบี้ยที่สูง หนี้เสียก็มีปัญหา ขอให้แบงก์ชาติ ช่วยดูด้วย ตอนนี้อสังหาฯเหนื่อย ผู้ประกอบการสถานการณ์ลำบาก และหากสามารถส่งเสริมให้ประชาชนนำเงินออมมาใช้จ่ายจะดี" นายจตุพล กล่าว

        เปิดทาง "ต่างชาติ" ซื้อบ้านจัดสรร

        นายนพดล ธรรมวิวัฒน์ กรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท สระบุรีพัฒนาเมือง จำกัด และ CEO บริษัท นอร์ธแลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า เป็นข้อมูลที่คล้ายๆ และผู้ประกอบการที่ต้องปรับตัว จะมีวิกฤตหรือไม่วิกฤต แต่ตอนนี้กำลังจะแย่แล้ว

        พร้อมเสนอว่า ปัจจุบันมีการเปิดกว้างให้ชาวต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ในโครงการคอนโดมิเนียมตามกฎหมายสัดส่วนไม่เกิน 49% ซึ่งอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านจัดสรรได้ โดยมีการกำหนดภาษีจัดเก็บที่แตกต่างกัน โดยมีการจัดโซนนิ่งที่ชัดเจน และต้องการให้ภาครัฐขยายกลุ่มราคาที่จะได้รับสิทธิ์มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนฯและจดจำนอง จากนโยบายไม่เกิน 3 ล้านบาท ขยายกลุ่มกำลังซื้อเป็น ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งภาคอสังหาฯ จะมีกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี

      ท่องเที่ยวหนุนตลาดอสังหาฯหัวหิน

       ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารและรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงาน สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ภาคกลาง -ภาคตะวันตก (พระนคร ศรีอยุธยา สระบุรี เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์) จากผลการสำรวจภาคสนามล่าสุด เราเห็นว่าว่าภาคตะวันตก ในส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่หัวหิน ผลของการท่องเที่ยวและความต้องการซื้อของคนในพื้นที่ รวมถึงคนภายนอกที่มองหาการลงทุน จะกระตุ้นให้ยอดขายดีขึ้น ทำให้หน่วยเหลือขายลดลง

      ส่วนจังหวัดเพชรบุรี มองว่า จะทรงๆ ตัว ในเรื่องของยอดขาย อัตราดูดซับ ทรงๆ แต่โมเดล เรามองว่า เปิดใหม่ชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากอาคารชุดเหลือเยอะ และบ้านจัดสรร พอไปได้ เพราะขายได้

     "ภาพรวม ภาคตะวันตก หัวหิน จุดทำเลที่คนให้ความสนใจ คอนโดฯเปิดแล้ว ขายได้ บ้านแม้ซัปพลายเหลือเยอะ แต่ก็ขายได้ ในโซนหัวหิน ในส่วนของเพชรบุรี คอนโดฯยังมีปัญหา สร้างเสร็จและเหลือขาย ยังเหลือเยอะ แม้ราคาบ้านยังต่ำกว่าหัวหิน แต่ก็เหมาะกับการลงทุนได้ ส่วนรูปแบบวิลล่า ในหัวหิน ไม่มากนัก ยังไปได้ยังไม่หวือหวาเหมือนในบางจังหวัด เช่น ภูเก็ต.