อสังหาฯเมืองเหนือยอดขายดิ่งหนัก
Loading

อสังหาฯเมืองเหนือยอดขายดิ่งหนัก

วันที่ : 13 มีนาคม 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ภาคสนามพบเชียงใหม่จะแข่งขัน ลดราคาบ้านจัดสรร ขายดีเป็นบ้านเดี่ยว 3-5 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดเน้นของแถมมากกว่าลดราคา ขายดี 2-3 ล้านบาท ส่วนเชียงรายทำเลในเมืองยังได้รับความสนใจ โดยบ้านจะเป็นราคา 3-5 ล้านบาท อาคารชุด 1.5-2 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ลดราคาจูงใจในการซื้อ
      เชียงใหม่ - เชียงรายเดือดแข่งลดราคา

      จับตา 'จีน-อินเดีย' ถือครองเต็ม49%

      นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก ลำพูน ครึ่งหลังปี 2566 พบว่าอุปทานพร้อมขาย 16,954 หน่วย ลดลงจากครึ่งปีแรก 0.2% แต่มีมูลค่า 68,440 ล้านบาท เพิ่ม 1% แบ่งเป็นอาคารชุด 1,795 หน่วย เพิ่ม 26.3% มูลค่า 5,289 ล้านบาท เพิ่ม 25.3% บ้านจัดสรร 15,159 หน่วย ลด 2.6% มูลค่า 63,151 ล้านบาท เพิ่ม 0.6% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เทียบกับช่วงเดียวกัน 2565 พบว่าจำนวนหน่วยพร้อมขายเพิ่ม 1.9% มูลค่าเพิ่ม 3.1% ทำให้ภาพรวมปี 2566 มีที่อยู่อาศัยใหม่ เข้าสู่ตลาด 3,096 หน่วย มูลค่า 12,287 ล้านบาท มีหน่วยขาย ได้ใหม่ลด 31.9% มีหน่วยเหลือขาย 15,441 หน่วย เพิ่ม 3.6% มูลค่า 62,793 ล้านบาท เพิ่ม 4.5% คาดการณ์ ปี 2567 ภาพรวมเริ่มเป็นบวก ยอดขายใหม่มีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 27.5% อัตราดูดซับขยับเป็น 1.8%

     "จากจำนวนหน่วยเหลือขาย แยกตามประเภทก่อสร้าง มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขายถึง 4,877 หน่วย หรือ 31.6% ของจำนวนหน่วยเหลือขายทั้งหมด เป็นอาคารชุดอยู่ระหว่างก่อสร้างและสร้างเสร็จเหลือขาย 1,543 หน่วย คิดเป็น 10% ส่วนบ้านจัดสรรสร้างเสร็จ 4,040 หน่วย อยู่ระหว่างสร้าง 2,497 หน่วย ซึ่งเป็นที่น่าจับตา" นายวิชัยกล่าว

       นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับ 5 ทำเลที่มียอดขายสูงสุด ครึ่งปีหลัง ได้แก่ สันทราย เมืองเชียงราย แม่โจ้ ม.พายัพ และสารภี ส่วน 5 ทำเลที่มีหน่วยเหลือขายสูงสุด ได้แก่ เมืองเชียงราย 1,468 หน่วย มูลค่า 6,418 ล้านบาท สันทราย 1,339 หน่วย มูลค่า 4,434 ล้านบาท บ่อสร้างดอยสะเก็ด 1,279 หน่วย มูลค่า 6,136 ล้านบาท ม.พายัพ 1,209 หน่วย มูลค่า 5,810 ล้านบาท และสนามบิน- ม.แม่ฟ้าหลวง 1,169 หน่วย มูลค่า 4,167 ล้านบาท

       นายวิชัยกล่าวว่า คาดปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ 3,142 หน่วย มูลค่า 12,487 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 2,629 หน่วย มูลค่า 11,047 ล้านบาท และอาคารชุด 512 หน่วย มูลค่า 1,440 ล้านบาท โดยภาพรวมมีจำนวนเพิ่ม 1.5% และคาดว่าจะมีหน่วยขายได้ใหม่ 4,105 หน่วย มูลค่า 17,323 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 3,034 หน่วย มูลค่า 14,360 ล้านบาท และอาคารชุด 1,071 หน่วย มูลค่า 2,963 ล้านบาท

      "จากการลงพื้นที่ภาคสนามพบเชียงใหม่จะแข่งขัน ลดราคาบ้านจัดสรร ขายดีเป็นบ้านเดี่ยว 3-5 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดเน้นของแถมมากกว่าลดราคา ขายดี 2-3 ล้านบาท ส่วนเชียงรายทำเลในเมืองยังได้รับความสนใจ โดยบ้านจะเป็นราคา 3-5 ล้านบาท อาคารชุด 1.5-2 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ลดราคาจูงใจในการซื้อ" นายวิชัยกล่าว

       นายชินะ สุทธาธนโชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงราย กล่าวว่า การฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯในเชียงราย ยังล้อไปกับเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเป็นเมืองรอง การท่องเที่ยวจึงขึ้นลงตามฤดูกาล ขณะที่สถานการณ์ตลาดกลุ่มบ้านเดี่ยวยังขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่กลุ่ม 1-3 ล้านบาท ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน และตลาดมีสต๊อกสะสมอยู่จำนวนมา ทำให้การแข่งขันในตลาดรุนแรง และโดยมากถูกพัฒนาโดยบริษัทอสังหาท้องถิ่นรายเล็ก มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ต้องใช้กลยุทธ์ลดราคาขายเพื่อดึงกระแสเงินสดกลับมา ขณะที่การเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดแข่งขันสูง คาดในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ตลาดอสังหาฯเชียงราย น่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น

       นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯเชียงใหม่ฟ้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์ภาคการท่องเที่ยวและต่างชาติที่เข้ามาจำนวนมาก โดยปี 2566 มีกว่า 3.5 ล้านคน โต 50% จากปีก่อน โดยชาวจีนยังเป็นกลุ่มหลักกว่า 50% รองลงมาอินเดีย ซึ่งส่งผลให้มีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว ทำให้ทุกโครงการของบริษัทที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบันมีต่างชาติจองซื้อเกือบเต็มโควต้า 49% แล้ว