17ปีที่อรสิริน คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยที่มั่นหลักของอรสิรินอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ การเล็งเห็นศักยภาพของโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ทำให้วันนี้ "อรสิริน" มาได้ไกลอย่างมั่นคงและมีความน่าสนใจไม่น้อย

     หากพิจารณาจากตัวเลขยอดขายในปีที่ผ่านมา 2566 ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท และครึ่งปีหลังประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 51.5% ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน เช่น การเปิดประเทศหลังโควิด ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ซัปพลายเติมเข้ามาในตลาดไม่มากนัก

     นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORN ให้ข้อมูลว่า ในช่วงครึ่งปีแรกผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่กล้าที่จะเติมซัปพลายเข้าตลาดมากนัก แม้ช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุผลน่าจะมาจากการที่ ต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น ทั้งจาก ไต้หวัน และจีน ที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 300% โดยเฉพาะในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี

     นอกจากนี้ นายอรรคเดช ยังมองว่าสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาฯได้ผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายไปแล้ว และทิศทางของธุรกิจอสังหาฯ ในเชียงใหม่ปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าอาจจะมีปัจจัยลบที่น่าเป็นกังวลอยู่บ้าง

     "การขยายสนามบินเชียงใหม่ และโครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ น่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ผลักดันให้เศรษฐกิจเชียงใหม่เติบโตได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือหนี้ครัวเรือน ซึ่ง 1 ใน 3 เป็นหนี้จากการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งหมายความว่า หนี้หลักเกิดจากการอุปโภคบริโภค ในส่วนของดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ คิดว่าคงจะไม่มีการปรับขึ้นอีกในอนาคต และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยเป็นนักธุรกิจในแวดวงอสังหาฯ น่าจะมีแนวทางการเจรจาในเรื่องดังกล่าว เพราะน่าจะเป็นผู้ที่เข้าใจธุรกิจอสังหาฯ ไทยมากที่สุด ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น การเมืองของสหรัฐอเมริกา หรือภาวะสงคราม ยังต้องเฝ้าระวัง แต่ไม่น่าส่งผลกระทบมากนัก" 

      พร้อมกันนี้ อรสิริน โฮลดิ้ง ยังเปิดเผยแผนการลงทุนในธุรกิจ อสังหาฯ ในปี 2567 รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,302 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ 4 โครงการ และแนวสูง 2 โครงการ ได้แก่

      1. ORNSIRIN VILLE (TARUA) บ้านแฝดเชิงพาณิชย์ สไตล์โมเดิร์น โฮมมี่ ติดถนนวงแหวนรอบนอก มูลค่าโครงการ 337 ล้าบาท เตรียมเปิดตัวภายใน ไตรมาส 1 ปี 67

      2. URBAN MYX (BandenRajavej) Shophouse สไตล์โมเดิร์น โฮมมี่แบบ Multi Purpose ทำเลใจกลางเมือง มูลค่าโครงการ 56 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ปี 67

      3. ORNSIRIN VILLE (Sansai) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด สไตล์ Country Classic บรรยากาศยุโรป ทำเลใกล้รวมโชคมอลล์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มูลค่าโครงการ 886 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ปี 67

     4. HABITAT (Ruamchok) บ้านหรูสไตล์ French Eclectic ทำเลใกล้รวมโชคมอลล์ และศูนย์ราชการ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายใน ไตรมาส 3 ปี 67

     5. ARISE (Sansai) คอนโดมิเนียม Low-Rise คอนโด Pet Friendly แห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ใกล้เซ็นทรัลเฟสติวัล ตกแต่งพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการ 1,146 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวภายในไตรมาส 3 ปี 67

     นอกจากนี้ บริษัทขยายโครงการสู่ภูมิภาคอื่นนำร่องแห่งแรก ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เตรียมเปิดโครงการ ARISE (Phuket) คอนโดมิเนียม Low-Rise ทำเลใจกลางเมือง ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ใกล้หาดบางเทา มูลค่าโครงการรวม 777 ล้านบาท และเปิดพรีเซลไตรมาส 4 ปี 67

      นายปรีดิยากร บูรณปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า บริษัทยังคงมองหาโอกาส เพื่อขยายโครงการสู่ตลาดต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ และหัวเมืองท่องเที่ยว ในรูปแบบความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจและอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายของยอดขายไว้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท

       การลุยน่านน้ำใหม่อย่างจังหวัดภูเก็ต มีหลายเหตุผล ทั้งศักยภาพของพื้นที่ที่คล้ายคลึงกับเชียงใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้หาดบางเทา ที่เป็นเสมือน "ทองหล่อแห่งภูเก็ต" และการมี Agency ที่มีศักยภาพในการติดต่อกับลูกค้าชาวต่างชาติ

       "ภูเก็ตจะเป็นเสมือนบ้าน หลังที่สองของเรา แม้ว่าโครงการที่จะ เริ่มต้นที่นี่เป็นแนวสูง แต่โครงการ แนวราบจะเป็นโครงการที่เรามองในอนาคต" นายอรรคเดช กล่าวเสริม และอรสิรินเตรียมสยายปีกลุยธุรกิจใหม่ นั่นคือ ธุรกิจการศึกษา ที่เป็นPassion ใหม่ในการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าของอรสิริน โดยมีการเซ็น MOU กับโรงเรียน Mill Hill School ที่มีชื่อเสียงจากอังกฤษ เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดรับนักเรียนในเดือนสิงหาคม ปี 2568 ซึ่งธุรกิจโรงเรียนจะเริ่มเห็นกำไรในปีที่ 3 และมี Cash Flowภายใน 7-8 ปี

        ขณะที่อีก 2 ธุรกิจในแผน คือ แพลตฟอร์ม PROPSQUARED สื่อกลางที่ให้บริการลงประกาศซื้อ-ขายปล่อยเช่าบ้านและคอนโดฯ สำหรับลูกบ้านของอรสิรินทุกโครงการ ด้วยจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่สะดวก ใช้งานง่าย สามารถอัปเดตข้อมูลแบบ Real time พร้อมบริการด้าน Marketing Solutions ให้กับนายหน้าอสังหาฯ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และ Life Style Market ศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดสด ตลาดนัดแหล่งชอปปิ้งทำเลโซนวงแหวนรอบนอก (แยกท่ารั้ว) เชื่อมต่อใจกลางเมืองเชียงใหม่ได้ง่าย จำนวนกว่า 200 ร้านค้า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ บนพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของอรสิริน คาดเริ่มก่อสร้างภายในปี 67 และทยอยรับรู้รายได้เข้ามาช่วงปี 68

       ด้วยงบการลงทุนปีนี้สูง 1,700 ล้านบาท และจังหวะการก้าวของ อรสิรินที่มีต่อโครงการอสังหาฯ ที่ตัวเอง ถนัดและโครงการอื่นๆ น่าจะเกื้อหนุนให้อรสิรินเติบโตได้อย่างดี ก่อนที่จะเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต