นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 4 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.5 เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) และเพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แสดงว่า ราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ยังอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวขึ้น แต่เป็นการปรับตัวขึ้นไม่มาก

       ปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในหมวดงานสถาปัตยกรรม 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่หมวดงานวิศวกรรมโครงสร้าง ลดลง2.8% และ หมวดงานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร ลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY)

       หมวดราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลงมี 4 รายการ ได้แก่ สุขภัณฑ์ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และผลิตภัณฑ์คอนกรีต โดยเฉพาะราคาสุขภัณฑ์ที่ลดลงมากที่สุดถึงประมาณ 10.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อระบายสต๊อกสินค้าช่วงปลายปี รองลงมาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ลดลง 9.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจีนส่งออกสินค้าเหล็กจำนวนมากไปยังภูมิภาคอาเซียนและไทย

       เนื่องจากจีนเกิดปัญหาการชะลอตัวด้านอสังหาริมทรัพย์และการเติบโตของเศรษฐกิจ ที่ไม่ได้สูงเหมือนที่คาดการณ์ไว้แต่โรงงานเหล็กในจีนยังมีการผลิตสูงขึ้นต่ออย่างเนื่อง จึงเริ่มระบายสินค้าจากจีนมายังตลาดโลกเป็นปริมาณสูงมากต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 และเข้ามาสร้างโกดังกระจายสินค้าโดยตรงในพื้นที่ EEC ของไทย ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือดส่งผลให้ราคาเหล็กโดยรวมในไทยปรับตัวลดลง

       เมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้าง แต่ละหมวด พบว่า

       1. หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานวิศวกรรมโครงสร้าง มีอัตราค่าตอบแทนลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 27.2% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานสถาปัตยกรรม มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 66.5% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานระบบสุขาภิบาล มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน2.8% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบงานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร อัตราค่าตอบแทนลดลง0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ)มีสัดส่วน3.5% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ

       2. หมวดวัสดุก่อสร้าง คิดเป็น 60.3% ของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 28.7% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ราคาลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ ปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 7.0 %ของหมวดวัสดุก่อสร้าง เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาลดลง9.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 8.7% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง

       กระเบื้องราคาเพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลง1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 5.7% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ ราคาลดลง10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 2.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ราคาลดลง0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) มีสัดส่วน 6.1% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างอื่นๆ ราคาเพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลง0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 (QoQ) โดยมีสัดส่วน 40.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง

       3. หมวดแรงงาน คิดเป็น 39.7% ของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน โดยค่าแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน