นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เปิดเผยว่า ผลสำรวจภาคสนามสะท้อนอุปทานและอุปสงค์ของ ในตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งอยู่ระหว่างขาย ไตรมาส 3/66 ในพื้นที่กรุง เทพฯ-ปริมณฑล พบว่า อุปทานที่อยู่อาศัยที่เสนอขายทั้งหมด 213,282 หน่วยเพิ่มขึ้น 8% หน่วย ที่เปิดตัวใหม่ มีจำนวน 20,281 หน่วยลดลง 15.1% ขณะที่ยอด ขายได้ใหม่จำนวน 18,223 หน่วย ลดลง 9.7% ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเหลือขายในโครงการต่างๆ มีจำนวน 195,059 หน่วย เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

          สำหรับ ตลาดในภาพรวมมีการเปิดตัวใหม่ที่เพิ่มมากกว่ายอดขายใหม่ในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยมีหน่วยเหลือขายที่เพิ่มขึ้นมากถึง 10% ส่วนทิศทางในปี 2567 โดยเชื่อว่าตลาดที่อยู่อาศัยจากปัจจัยบวก ทั้งจากภาวะดอกเบี้ยที่มีทิศทางทรงตัวและอาจมีการปรับตัวลดลง รัฐบาลสามารถขับเคลื่อน พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 และ 2567 เชื่อว่าปี 2567 ตลาดที่อยู่อาศัยน่าจะมีการฟื้นตัว โดยขยายตัวขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 10% แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวข้างต้นว่าจะเป็นตามที่คาดการณ์หรือไม่

          "ขณะที่ภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 3/66 ตลาดที่อยู่อาศัยมีหน่วยเหลือขายที่เพิ่มขึ้นมากถึง 10% ซึ่งได้เข้าสู่ภาวะที่มีการชะลอตัวของตลาดแล้ว" นายวิชัยกล่าว.