สต๊อกบ้าน-คอนโดท่วมราคาไม่เกิน3ล้านหนืด
Loading

สต๊อกบ้าน-คอนโดท่วมราคาไม่เกิน3ล้านหนืด

วันที่ : 21 ธันวาคม 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อบ้านได้ ภาครัฐต้องผ่อนเกณฑ์หรือยกเลิกมาตรการ LTV ให้กู้ได้ 100% สำหรับการกู้ทุกบัญชี ไม่จำกัดต้องเป็นบ้านหลังแรก รองลงมาควรมีมาตรการช่วยให้คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใหม่ทุกประเภททั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีหน่วยสะสมเหลือขาย ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 93,607 หน่วย เพิ่ม 11.5% จากไตรมาส 4/2565 และมีมูลค่าอยู่ที่ 223,446 ล้านบาท เพิ่ม 13% เทียบกับไตรมาส 4/2565 โดยคอนโดมิเนียมเหลือขายมากสุด 49,433 หน่วย มูลค่า 110,266 ล้านบาท บ้านจัดสรรอยู่ที่ 44,174 หน่วย มูลค่า 113,180 ล้านบาท เมื่อแยกรายประเภท พบว่า ทาวน์เฮาส์มีจำนวนหน่วยเหลือขายมากสุด 41,679 หน่วย มูลค่า 105,603 ล้านบาท รองลงมาเป็นบ้านแฝด 1,436 หน่วย มูลค่า 3,859 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 828 หน่วย มูลค่า 3,091 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 231 หน่วย มูลค่า 626 ล้านบาท

          นายวิชัยกล่าวว่า ยอดขายปี 2566 ลดลงจากปี 2565 ทุกไตรมาส เนื่องจากเป็นผลพวงจากการที่ปี 2565 และต้นปี 2566 เปิดตัวคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงจำนวนมาก และยอดขายในกลุ่มนี้ในปี 2566 ไม่ค่อยดี เนื่องจากขอกู้สินเชื่อผ่านยาก เพราะปัจจุบันคนที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อย มีการก่อหนี้หลายทาง ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่ถูกแสดงในรายงานเครดิตบูโรของแต่ละคน จึงเป็นเรื่องที่สถาบันการเงินพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระแล้วไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณา เมื่อพิจารณาจากหน่วยเหลือขายในไตรมาส 3 แล้ว ถ้าอัตราดูดซับยังเท่ากับในปัจจุบัน คงต้องใช้เวลาหลายปีในการขายสำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำ 3 ล้านบาท แนวโน้มปี 2567 อาจเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ

          นายวิชัยกล่าวว่า เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อบ้านได้ ภาครัฐต้องผ่อนเกณฑ์หรือยกเลิกมาตรการ LTV ให้กู้ได้ 100% สำหรับการกู้ทุกบัญชี ไม่จำกัดต้องเป็นบ้านหลังแรก รองลงมาควรมีมาตรการช่วยให้คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เช่น หาซอฟต์โลนดอกเบี้ยพิเศษสำหรับซื้อบ้านหลังแรก ทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนเพิ่มขึ้น รวมถึงออกมาตรการต่างๆ มากระตุ้นกำลังซื้อในตลาด เช่น ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% เป็นต้น