รับสร้างบ้านบูม ลดเสี่ยงงบบาน-ไม่ตรงปก
Loading

รับสร้างบ้านบูม ลดเสี่ยงงบบาน-ไม่ตรงปก

วันที่ : 9 พฤศจิกายน 2566
ซีคอน ระบุว่า ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เพื่อรับมือ มีการวางแผนในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมต้นทุน เป็นแนวทางที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
          
          ซีคอนเผยผู้บริโภคหันใช้ บริษัทรับสร้างบ้านเพิ่ม ลดความเสี่ยงงบบาน ถูกทิ้งงาน ได้บ้านไม่ตรงปก พร้อมเปิดตัว 2 แบบบ้านใหม่ส่งท้ายปี ชูแนวคิด ESG เคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

          นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า  ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง จากปัญหาที่ผู้บริโภคมักเจอการทิ้งงานหรือการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามสัญญาและไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ต้องเพิ่มงบประมาณในการก่อสร้างแบบที่ ไม่ได้วางแผนรับมือมาก่อน ดังนั้น การตัดสินใจเลือกใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเสียง และประสบการณ์สั่งสมมาเป็นเวลานาน จึงเป็นทางออกที่ผู้บริโภคไว้วางใจ

          ทั้งนี้ ซีคอน คาดการณ์ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านของไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของ ปี 2566 ภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดด้านสงครามของทั้งรัสเซีย-ยูเครน และอิสราเอลปาเลสไตน์ เป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเฝ้าระวัง เพราะล้วนส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนราคาพื้นฐาน

          "ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เพื่อรับมือ มีการวางแผนในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมต้นทุน เป็นแนวทางที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก"

          ด้านปัจจัยภายในประเทศเกี่ยวกับนโยบายการขึ้นค่าแรงนั้นในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้าน แรงงานที่มีอยู่ล้วนแต่เป็นแรงงานฝีมือซึ่งได้รับค่าตอบแทนสูงอยู่แล้วจึงอาจไม่ส่งผลกระทบชัดเจน ด้านราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นมาเป็นระยะนั้น เนื่องจากซีคอนมีโปรเจกต์ รับสร้างบ้านอยู่ในมือค่อนข้างมาก จึงมีพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายและดำเนินธุรกิจกันมาอย่างยาวนาน ความเชื่อมั่นดังกล่าวและแผนการซื้อที่ชัดเจนจึงทำให้สามารถบริหารต้นทุนการซื้อดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          ในปี 2566 ซีคอนมีโปรเจกต์งานที่ต้องดำเนินการก่อสร้างรวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้ง งานของซีคอน รับสร้างบ้าน และงานของซีคอน ไอดี ที่รับออกแบบ และสร้างตามแบบของลูกค้า แบ่งเป็นมูลค่างานก่อสร้างของ ซีคอน รับสร้างบ้าน ประมาณ 89% และซีคอน ไอดี ประมาณ 11% โดยรวมถือว่ายังมียอดขายที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคนั้นคือความเร็วในการส่งมอบบ้านที่พัฒนาขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ได้ก่อสร้างโรงงานผลิตโครงสร้างชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปแห่งที่ 2 เสร็จเป็นที่เรียบร้อย เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการนำเสนอแบบบ้านประหยัดพลังงานสู่ตลาดซึ่งสอดรับต่อไลฟ์สไตล์เทรนด์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน 

         "หากเริ่มต้นด้วยการวางแผนสร้างบ้านในทิศทางที่เหมาะสม คัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มฟังก์ชันการระบายความร้อน รับแดด รับลม ก็ทำให้บ้านทุกหลังกลายเป็นบ้านประหยัดพลังงานได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ซีคอนจะลงรายละเอียดให้ตั้งแต่การวางผังส่วนต่างๆ ของบ้านจนถึงเป็นที่ปรึกษาในมิติต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้บ้านตรงตามต้องการ"

          ทั้งนี้ ซีคอน ได้นำแนวคิด ESG เพื่อการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงมิติด้าน สิ่งแวดล้อม การคืนกลับสู่ชุมชน และการบริหารงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกลไกธุรกิจ เข้ามาผสมผสาน เพื่อสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางธุรกิจจากปัจจุบันสู่อนาคต

          ล่าสุด ซีคอน ยังได้เปิดตัวแบบบ้านใหม่ 2 สไตล์ คือ Cottage Style และ Modern Contemporary Style ทั้งแบบชั้นเดียว และ 2 ชั้น ในชื่อแบบบ้าน Cottage 167, Loft 301 และ Orchard 435 อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางการบริการทางด้านออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยได้มีการเพิ่มเพจย่อยของแต่ละศูนย์ที่มีอยู่เพื่อให้ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่การให้บริการของซีคอน เพื่อให้เข้าถึงได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

          สำหรับ ช่วงอายุมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกแบบบ้านของผู้บริโภค ปัจจุบันแบบบ้าน Modern Contemporary Style ยังเป็นแบบบ้านยอดนิยมอันดับ 1 และแนวโน้มบ้านที่มีแบบตัวอาคารที่เรียบง่ายหรือ Minimal Style เน้นประโยชน์การใช้สอยของพื้นที่ พร้อมทั้งบ้านดูโปร่ง โล่งสบาย ยังเป็นที่นิยมของลูกค้าเช่นกัน และที่เห็นเป็นเทรนด์เพิ่มมากขึ้นคือการที่ลูกค้าได้ร่วมออกแบบบ้านกับสถาปนิกที่คนชื่นชอบและนำแบบบ้าน ดังกล่าวมาให้ซีคอนก่อสร้างให้

          อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซีคอน ยังไม่ได้ปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด ถือเป็นปีทองของผู้บริโภค
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ