พีดีเฮ้าส์ ชี้ศก.-เงินเฟ้อฉุดรับสร้างบ้านQ3 ราคาวัสดุก่อสร้าง - ต้นทุนพุ่งจ่อปรับราคา 3-6%
วันที่ : 25 ตุลาคม 2566
พีดีเฮ้าส์ เผยตลาดรับสร้างบ้าน Q3 ชะลอตัว หลังเจอพิษเศรษฐกิจ เงินเฟ้อพุ่ง หนี้ครัวเรือนพุ่งฉุดกำลังซื้อหาย หวั่นตลาดซึมยาว ชี้โค้งสุดท้ายเจอศึกหนักผลกระทบ น้ำท่วมขัง
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลปาเลสไตน์ กระทบความเชื่อมัน ซ้ำต้นทุนเพิ่มราคาวัสดุพุ่งไม่หยุด ค่าแรงขั้นต่ำจ่อขยับ แบกรับต้นทุนไม่ไหวเล็งปรับราคาบ้าน 3-6%
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป (กรุงเทพ) จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 3 ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วง ครึ่งปีที่ผ่านมา ผลพวงจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ราคาวัสดุ และความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลให้กำลังซื้อปรับลดลง ถึงแม้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ตาม แต่เศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวอยู่ หนี้ครัวเรือนก็ปรับสูงขึ้น รวมถึงปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้ผู้บริโภคยิ่งระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนยอดขายแบ่งออกเป็นบ้านในกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท คิดเป็น 42.9% บ้านกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท คิดเป็น 42.3% และบ้านในกลุ่มราคา10-20 ล้านบาทอีก 14.8%
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดคิดเป็นสัดส่วน 83% และลูกค้าในพื้นที่ กรุงเทพฯปริมณฑล 17% ทั้งนี้หากจำแนกสัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการปลูกสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด แยกตามรายภูมิภาคจะพบว่าพื้นที่ภาคกลางมีสัดส่วน 38% รองลงมาเป็นพื้นที่ภาคอีสาน 23% ภาคใต้ 12% และภาคเหนืออีก 10%
"จากตัวเลขยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 3 จะพบว่าบ้านในกลุ่มราคา 8-10 ล้านบาท ชะลอลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปี ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคได้รับผล กระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จากที่ คาดการณ์ว่าภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เศรษฐกิจน่าจะพลิกฟื้นขึ้น แต่ถึงขณะนี้ยังไม่เห็นความชัดเจน อาจจะต้องรอดูในช่วงไตรมาสสุดท้ายหากรัฐบาลสามารถผลักดันนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่าผู้บริโภคจะตัดสินใจปลูกสร้างบ้านอีกครั้ง"
น.ส.ถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า หากมองจากตัวเลขยอดขายรวมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมายังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงโค้งสุดท้ายของปีธุรกิจรับสร้างบ้านอาจจะต้องเจอผลกระทบจากภายนอกประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศอาจจะไม่ขยายตัวอย่างที่ คาดการณ์ไว้
ส่วนปัจจัยลบภายในประเทศ เรื่องปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ส่งผลต่อการขนส่งวัสดุที่ล่าช้า และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอิฐมวลเบาที่ปรับสูงขึ้นเกือบ 40% ปูนซีเมนต์ โครงสร้างสำเร็จรูป ฯลฯ รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่เตรียมปรับในช่วงต้นปีหน้าและราคาพลังงาน ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อต้นทุนค่าก่อสร้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ และอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่ขยับสูงขึ้นไหว จำเป็นต้องปรับราคาบ้านขึ้นอีก 3-6%
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป (กรุงเทพ) จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 3 ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วง ครึ่งปีที่ผ่านมา ผลพวงจากปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ราคาวัสดุ และความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลให้กำลังซื้อปรับลดลง ถึงแม้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ตาม แต่เศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัวอยู่ หนี้ครัวเรือนก็ปรับสูงขึ้น รวมถึงปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้ผู้บริโภคยิ่งระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนยอดขายแบ่งออกเป็นบ้านในกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท คิดเป็น 42.9% บ้านกลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท คิดเป็น 42.3% และบ้านในกลุ่มราคา10-20 ล้านบาทอีก 14.8%
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านส่วนใหญ่ยังเป็นลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดคิดเป็นสัดส่วน 83% และลูกค้าในพื้นที่ กรุงเทพฯปริมณฑล 17% ทั้งนี้หากจำแนกสัดส่วนลูกค้าที่ใช้บริการปลูกสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด แยกตามรายภูมิภาคจะพบว่าพื้นที่ภาคกลางมีสัดส่วน 38% รองลงมาเป็นพื้นที่ภาคอีสาน 23% ภาคใต้ 12% และภาคเหนืออีก 10%
"จากตัวเลขยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 3 จะพบว่าบ้านในกลุ่มราคา 8-10 ล้านบาท ชะลอลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปี ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคได้รับผล กระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จากที่ คาดการณ์ว่าภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เศรษฐกิจน่าจะพลิกฟื้นขึ้น แต่ถึงขณะนี้ยังไม่เห็นความชัดเจน อาจจะต้องรอดูในช่วงไตรมาสสุดท้ายหากรัฐบาลสามารถผลักดันนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่าผู้บริโภคจะตัดสินใจปลูกสร้างบ้านอีกครั้ง"
น.ส.ถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า หากมองจากตัวเลขยอดขายรวมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมายังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงโค้งสุดท้ายของปีธุรกิจรับสร้างบ้านอาจจะต้องเจอผลกระทบจากภายนอกประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศอาจจะไม่ขยายตัวอย่างที่ คาดการณ์ไว้
ส่วนปัจจัยลบภายในประเทศ เรื่องปัญหาน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ส่งผลต่อการขนส่งวัสดุที่ล่าช้า และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอิฐมวลเบาที่ปรับสูงขึ้นเกือบ 40% ปูนซีเมนต์ โครงสร้างสำเร็จรูป ฯลฯ รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่เตรียมปรับในช่วงต้นปีหน้าและราคาพลังงาน ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อต้นทุนค่าก่อสร้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ และอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่ขยับสูงขึ้นไหว จำเป็นต้องปรับราคาบ้านขึ้นอีก 3-6%
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ